ตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี แค่อ้าง “กฤษฎีกา”ไม่พอ

การเมือง
4 พ.ค. 67
17:15
261
Logo Thai PBS
ตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี แค่อ้าง “กฤษฎีกา”ไม่พอ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
แม้กระบวนการปรับ ครม.เศรษฐา 2 จะเสร็จสิ้น และได้นำรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว แต่ใช่ว่าเรื่องนี้จะจบเสียทีเดียว

เพราะอย่างน้อย ป.ป.ช.ต้องดำเนินการตามคำร้องให้ไต่สวนนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รัฐมนตรีผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

หลังจาก นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. ระบุว่า นายพิชิต เคยถูกสภาทนายความ ถอดชื่อจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ 5 ปี

กรณีถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เมื่อปี 2551 ที่เกิดเหตุการณ์พยายามนำถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของนายทักษิณ ชินวัตร

แล้วมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4599/2551 วินิจฉัยชี้ขาดว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทาย โดยระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหาประกอบอาชีพทนายความ ย่อมตระหนักดีว่า จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียสถาบันศาลยุติธรรม และกระทบศรัทธาในการทำหน้าที่ของอำนาจตุลาการ สมควรลงโทษสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง จำคุกคนละ 6 เดือน ไม่รวมความผิดฐานให้สินบน

ล่าสุด เลขาธิการ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล ย้ำว่า ป.ป.ช.กำลังดำเนินการปมร้องสอบคุณสมบัติดังกล่าวอยู่ แม้จะเน้นไปดูว่า การแต่งตั้งมีคุณสมบัติหรือไม่ มีเจตนาอย่างไร และได้มีการตรวจสอบประวัติและรับรองคุณสมบัติจากหน่วยงานใดบ้างหรือไม่

แต่ถือเป็นการเดินหน้าต่อ เพราะเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกังวล และสงสัยการพิจารณาเลือกคนเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนและบริหารงานของประเทศชาติ สะท้อนผ่านเสียงวิจารณ์ในวงกว้าง และการยื่นเรื่องตรวจสอบ

นอกจากนายวัชระแล้ว ยังมีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ หรือ คปท. นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ยื่นเรื่องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) ) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

ยังมีนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ยื่นเรื่องต่อต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้วินิจฉัย หรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายพิชิต ชื่นบานขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

สำหรับ มาตรา 160 (5) คือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตต้องเป็นที่ประจักษ์ นางวิรังรอง ยังระบุถึงความห่วงใยประเทศชาติ และรู้สึกไม่สบายใจที่นายกฯ นำชื่อบุคคลที่น่าจะขาดคุณสมบัติไปเป็นรัฐมนตรี

รวมทั้งนำคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา ปี 2566 ที่ตอบคำหารือของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แสดงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว และโพสต์ข้อความตั้งเป็นคำถามว่า 3 หน่วยงาน กกต. ป.ป.ช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน หน่วยงานไหนจะวินิจฉัยกรณีนี้เสร็จก่อนกัน

ขณะที่นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อสิ้นเดือนเมษายนว่า ก่อนจะเสนอชื่อ ได้ส่งรายชื่อให้ตรวจสอบ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และแสดงความมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา

แต่กระนั้น การตรวจสอบในเชิงข้อกฎหมาย ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ประเด็นเกียรติศักดิ์หรือความเหมาะสม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรให้น้ำหนักเช่นกัน เพราะหากดูจากกำหนดคุณสมบัติของคนเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 160 มีมากถึง 8 ข้อ

และยังมีปลีกย่อยและเชื่อมโยงถึงคุณสมบัติและข้อห้ามอื่น ๆ สะท้อนให้ความสำคัญสำหรับคนที่เป็นรัฐมนตรี

คนเป็นรัฐมนตรี ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้คน รวมทั้งเด็กและเยาวชน ทั้งในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม มีหิริโอตัปปะ คือละอายและเกรงกลัวต่อการทำบาป

ความจริงการประกาศไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีของนายพิชิต ตั้งแต่การฟอร์ม ครม.เศรษฐา 1 ก็ได้รับเสียงชื่นชมพอสมควร แต่ครั้งนี้เปลี่ยนใจ กลับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในชุดนี้ได้อย่างไร

เรื่องนี้ ความกระจ่างอย่างเดียวไม่พอ ต้องเรื่องมาตรฐานคุณธรรม รู้อะไรควรไม่ควร มาประกอบด้วย

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง