ฆ่าปิดปาก เหตุเกิดจากมีคน “ปากโป้ง” นำสิ่งที่เป็น “ความลับและความไม่ชอบมาพากล” ของคนที่อยากปกปิดไปเปิดโปงต่อคนอื่น ๆ ให้รับรู้ ทำให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้ที่ต้องการอำพราง ซ่อนเร้นความจริง แม้ความจริงจะเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนนำความจริงมาแฉในที่แจ้ง อาจจะเจอ “ไข้โป้ง” ได้ และที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นนักเคลื่อนไหว เอ็นจีโอ นักข่าว หรือชาวบ้าน ต่างก็เคยประสบเหตุลักษณะนี้ไม่ใช่น้อย
หลาย ๆ คน ไม่ได้เจอเฉพาะการใช้อิทธิพลข่มขู่จากลุ่มทุน หรือคนโกงเท่านั้น แต่ยังมีการใช้กฎหมายอาญา “รูดซิปปาก” ฝ่ายตรงข้ามในข้อหา “หมิ่นประมาท” ทำให้การเปิดเผยข้อมูลต้องสะดุดลง ด้วย “คดีหมิ่นประมาท” มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี และต้องเสียค่าปรับถึง 200,000 บาท หากถูกศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง
น.ส.นรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ว่า กฎหมายปิดปาก หรือ SLAPP ( Strategic Litsuits Against Public Participation) จะมี 2 ส่วน คือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ... หรือ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ป้องกันการฟ้องปิดปาก เพื่อให้ ป.ป.ช.สามารถเข้ามาคุ้มครอง และให้ความช่วยเหลือผู้แจ้งเบาะแส แม้จะไม่ได้ร้องขอโดยตรง ปัจจุบันผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว เพิ่งเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2568 ขั้นตอนขณะนี้ อยู่ระหว่างการเสนอทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธย โดยกฎหมายป้องกันการฟ้องคดีปิดปาก (Anti-SLAPP Law) ของ ป.ป.ช.เน้นเรื่องของรัฐ และสัญญาการร่วมลงทุนกับภาครัฐ

ส่วนร่าง พ.ร.บ.การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของสาธารณชน พ.ศ...หรือ พ.ร.บ.ป้องกันการฟ้องปิดปาก ปัจจุบันมีการยกร่างกฎหมายแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมวลเพื่อรับความเห็นจากระบบกลาง หลังจากรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไซต์และออนไลน์จากทั่วประเทศ และนำเข้าสู่เว็บไซต์กลาง เพื่อนำมาปรับปรุงร่างอีกครั้ง ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณากฎหมายตามลำดับ
“ขั้นตอนยังอีกยาวไกล ต้องส่งให้คณะกรรมการพัฒนากฎหมายของกรมฯ และกระทรวง พิจารณาตามลำดับ และส่ง ครม.และคณะกรรมการกฤษฎีกา ผ่านไปยัง สส.และวุฒิสภา (สว.) ต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะถือว่าอยู่แค่ขั้นต้น แต่ SLAPP ของ ป.ป.ช.ที่เป็นภาครัฐน่าจะเสร็จเร็ว เพราะอยู่ระหว่างเตรียมลงพระปรมาภิไธย แล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษา” ผอ.กองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กล่าว
แม้ร่าง พ.ร.บ.กฎหมายปิดปากจะขยับไปพอสมควร แต่ยังไม่มีเส้นทางลัดที่จะทำให้เร็วกว่านี้ ยกเว้นในกรณีที่ได้รับสัญญาณจากรัฐบาล หรือภาคประชาชน ช่วยกันเรียกร้อง ก็อาจทำให้เรื่องดังกล่าวได้รับการพิจารณาอย่างเร่งด่วนได้
น.ส.นรีลักษณ์ บอกว่า หากกฎหมายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ก็จะมีประโยชน์ต่อประชาชน เพราะจะให้ความคุ้มครองกับผู้ให้ข้อมูล หรือผู้ชี้เบาะแส ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ มีหลักประกันความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แล้วจะถูกฟ้องกลับ เพราะมีมาตรการป้องกันการฟ้องหมิ่นประมาท และลงโทษหมิ่นประมาท ถ้าการแสดงความเห็นเป็นต่อประโยชน์สาธารณะ
“มีนิยามชัดเจนว่า ประโยชน์สาธารณะ คือ อะไร ถ้ามีการแสดงความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก็จะไม่ถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา เช่น การติดตามตรวจสอบทุจริตในภาครัฐ การคุ้มครองผู้บริโภคที่ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้สิทธิเสรีภาพแสดงความเห็น เขียน พูด พิมพ์ หรือโฆษณา หรือใช้สิทธิการชุมนุมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยปราศจากอาวุธ”
ผอ.กองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศฯ ย้ำว่ากฎหมาย SLAPP นอกจากจะใช้ปกป้องประชาชนและนักสิทธิมนุษยชน นักข่าว ภาคประชาสังคม ที่แสดงความเห็นประโยชน์ต่อสาธารณะที่ตกเป็นเป้าหมายแล้ว ยังถือเป็นการรักษาไว้ซึ่งสมดุลระหว่างการรักษาประโยชน์สาธารณะ และการคุ้มครองสิทธิ ชื่อเสียงและเกียรติยศของบุคคลด้วย

“กฎหมาย SLAPP ของ ป.ป.ช.จะเน้นการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล และผู้แจ้งเบาะแส แต่ของคุ้มครองสิทธิฯ ที่กำลังทำ จะยกเว้นโทษหมิ่นประมาท และการฟ้องคดีกลั่นแกล้ง ไม่ให้มีโทษหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและอาญา หากตำรวจ อัยการ ศาล ในแต่ละชั้นเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้ง ก็สามารถพิจารณายกฟ้องได้ โดยไม่นำเรื่องนี้ขึ้นมาดำเนินคดีต่อ เป็นการให้โอกาส”
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าว เน้นให้ความคุ้มครองผู้แสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะสูงมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะถูกสกัด แต่ในฐานะที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนมาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องพยายามผลักดันดันต่อไป
“กฎหมาย SLAPP ของเราครอบคลุมหมด และยังพัวพันกับภาคเอกชนด้วย หากพบว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคเอกชน สิ่งแวดล้อม ที่ส่งกระทบต่อประชาชนและชุมชนในวงกว้างกว่า ก็มีสิทธิถูกตีตกได้...ก็ต้องดูต่อไปว่าจะถูกสกัดหรือไม่ เพราะกลุ่มนักลงทุน ภาคเอกชนก็มีพาวเวอร์สูง”
นอกจากร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่ยังรอการบังคับใช้แล้ว ไทยยังมีอีก 3 มาตราที่ป้องกันการป้องปิดปาก คือ กฎหมาย ป.วิอาญา 161/1 , กฎหมาย ป.วิอาญา 165/2 และ พ.ร.บ.องค์กรอัยการมาตรา 21 โดยมีการระบุว่าชัดเจนว่า เป็นกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก
โดยเฉพาะมาตรา 161/1 ในกรณีที่ศาลพิจารณาเห็นว่า เป็นการฟ้องกลั่นแกล้ง ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจไม่รับฟ้องก็ได้ ขณะที่มาตรา 165/2 เป็นเรื่องจำเลยที่ถูกฟ้องยกขึ้นมา แจ้งศาลก็ได้ว่า ถูกฟ้องกลั่นแกล้ง แล้วศาลไม่ดำเนินคดีต่อ หรือยุติคดี ถือว่าเป็นวิอาญา ส่วนมาตรา 21 พ.ร.บ.อัยการ หากอัยการเห็นว่า การสั่งฟ้องคดีนี้จะไม่เป็นประโยชน์ ก็มีสิทธิที่จะสั่งไม่ฟ้องได้เช่นกัน

“ข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ศาลและอัยการใช้ดุลยพินิจเรื่องนี้น้อยมาก และการฟ้องตามขั้นตอนปกติ ก็ไม่มีใครกล้าฟันธง ว่าเป็นการฟ้องกลั่นแกล้งหรือไม่ ถ้าจะฟ้องต้องดูพยานหลักฐานให้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นศาล หรืออัยการ หากหลักฐานไม่ชัดจริง ๆ จะไม่สั่งฟ้องคดี ...ถ้ามีกฎหมายฉบับนี้ ก็จะเป็นหลักให้ ผู้พิพากษา และอัยการใช้ประกอบการพิจารณาคุ้มครองประชาชนไม่ให้เกิดความหวาดกลัว กล้าใช้สิทธิของตัวเองในการออกมาวิพากษ์วิจารณ์” น.ส.นรีลักษณ์ กล่าว
แม้ขณะนี้กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะยังไม่ได้เก็บสถิติคดีฟ้องปิดปากที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ข้อมูลจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุว่า การฟ้องปิดปากโดยภาคธุรกิจและรัฐวิสาหกิจในไทย ระหว่างปี 2540 - 2565 มีจำนวน 109 คดี โดย 74% เป็นการฟ้องคดีอาญา และอีก 26% เป็นการฟ้องคดีทางแพ่ง

ผอ.กองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศฯ เชื่อว่า การใช้ SLAPP ฟ้องปิดปากมีคดีจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้เก็บข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า มีประเภทไหนบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ บริษัท และธุรกิจเอกชน ที่มีการบังคับใช้แรงงานละเมิดสิทธิฯ และทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ปล่อยน้ำเสีย ซึ่งผู้เปิดเผยข้อมูลมักจะจะถูกเอกชนฟ้องกลับ ทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายหากถูกดำเนินคดี
“ดังนั้นหากมีกฎหมายบังคับใช้คุ้มครองประชาชนที่ใช้สิทธิและเสรีภาพโดยสุจริตในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้ลดปัญหาการละเมิดสิทธิ การทุจริตและประพฤติมิชอบในทุกกรณี แต่กว่าจะฝ่าฟันเส้นนี้ไปถึง คงต้องใช้เวลาอีกนาน”
ทั้งนี้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์ฯ มี 2 หมวด 13 มาตรา หมวดแรกเป็นหมวดอาญา มี 8 มาตรา หมวดสองเป็นหมวดแพ่ง มี 5 มาตรา สาระสำคัญ คือ งดเว้นหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและอาญา
อ่านข่าว :
สกัดโกง-ทุจริต "ฟ้องปิดปาก" เปิดร่าง กม.ป้องคดีเชิงยุทธศาสตร์
สอบเส้นเงิน “ทิดแย้ม” ย้อนหลัง โยงเครือข่ายเชื่อมเว็บออนไลน์ ?
อาเซียนกับวิสัยทัศน์ 2045 ประชาคมยืดหยุ่น “ศูนย์กลาง” ประชาชน
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- กฎหมายฟ้องปิดปาก
- กฎหมายป.วิอาญา
- ร่างพ.ร.บ.กฎหมายฟ้องปิดปาก
- ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ...
- ร่างพ.ร.บ.การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของสาธารณชน พ.ศ...
- กฎหมายปิดปาก
- นรีลักษณ์แพไชยภูมิ
- นรีลักษณ์ แพไชยภููมิ
- กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
- กระทรวงยุติธรรม
- กฏหมายปิดปากป.ป.ช.
- ข่าวอาชญากรรมวันนี้
- ข่าวอาชญากรรมล่าสุด
- เจาะข่าวจริงกับไทยพีบีเอส