วันนี้ (31 พ.ค.2568) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายสรุปปิดของฝ่ายค้านในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่างบประมาณนี้เสี่ยงต่อการคอร์รัปชันและไม่ตอบโจทย์วิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมตั้งคำถามว่างบประมาณบางส่วน เช่น โครงการ AI และยาเสพติด สอดคล้องกับนโยบายของนายทักษิณ ชินวัตร มากเกินไปจนน่าสงสัยว่าเป็นการเตรียมเอาใจนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่
น.ส.ศิริกัญญา เริ่มต้นด้วยการตอบโต้ข้อกล่าวหาว่าฝ่ายค้านขาด "กาละเทศะ" ในการอภิปราย ยอมรับว่างบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาทมีจำกัด แต่ย้ำว่าต้องใช้อย่างคุ้มค่าเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน เสริมโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปราะบาง และเตรียมรับมือวิกฤตการค้าที่ยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐฯ ที่อาจยืดเยื้อจากนโยบายขึ้นภาษีของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมเตือนว่า หากสถานการณ์เลวร้ายสุด เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตเพียงร้อยละ 1.3 ในปีนี้ หรือแย่กว่านั้นคือ ร้อยละ 1 ในปี 2569
เราพยายามหาเงินช่วยเศรษฐกิจ แต่เหมือนถังน้ำที่มีรูรั่วจากคอร์รัปชัน การอภิปรายของเราคือการชี้จุดเสี่ยงเพื่อตัดงบที่อาจถูกโกง เช่น โครงการที่เปิดช่องให้กินหัวคิว ทำไมเราจะพูดไม่ได้ ? การอภิปรายนี้ไม่ใช่การไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีสักคน แต่เป็นการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน
นอกจากนี้ ยังวิจารณ์งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท ที่จัดสรรให้ 2,500,000 คน โดยเปรียบเหมือน "ลุ้นหวย" เพราะไม่ชัดเจนว่าจะแจกกลุ่มใด เช่น เยาวชน 16-20 ปี คนทำงาน 21-25 ปี หรือผู้ใกล้เกษียณ 55-59 ปี น.ส.ศิริกัญญายังอ้างถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่ยืนยันให้แจกเงินหมื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ฟันธงว่า
ท่านชาดา ยืนยันบอกให้แจกเลย ไม่งั้นได้ นายกฯ เท้ง แน่ แต่แจกแบบนี้ถึงใกล้เลือกตั้งแจก 20,000 เลยก็ได้ ก็ยังได้นายกฯ เท้งเหมือนเดิม มีแค่นี้จริง ๆ งบกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้
น.ส.ศิริกัญญา ยังจับตางบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในกระทรวงมหาดไทย ที่พบโครงการน่าสงสัย เช่น ศูนย์บำบัดยาเสพติด 5,484 ล้านบาท MOU EXPO 288 ล้านบาท และงบ AI ระดับจังหวัด 867 ล้านบาท รวมถึงตึก AI HUB ที่วิทยาลัยนวัตกรรม จ.บึงกาฬ 200 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตว่า งบเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายที่นายทักษิณ คุณพ่อของนายกรัฐมนตรี เพิ่งพูดถึง และตรงกับแนวทางคณะกรรมการ AI แห่งชาติที่นายกฯ เพิ่งประชุม เหมือนข้าราชการรู้ล่วงหน้าว่าจะเปลี่ยนนายกฯ หรือเปล่า ถึงจัดงบเอาใจขนาดนี้
นอกจากนี้ น.ส.ศิริกัญญา ยังวิพากษ์วิจารณ์โครงการ "กองทุนหมู่บ้าน S M L" วงเงิน 6,000 ล้านบาท ที่ยังไม่มีการใช้จ่าย แม้เหลือเวลาเพียง 4 เดือนในปี 2568 เธอชี้ว่างบประมาณ 2569 ยังใช้สูตรเดิม ไม่มีนวัตกรรม และน่าผิดหวังที่รายจ่ายประจำต่ำสุดในรอบ 18 ปี ทั้งที่ขาดดุลงบถึง 153,000 ล้านบาท โดยตัดรายจ่ายประจำเพื่ออ้างว่าลดลง แต่กลับเพิ่มงบลงทุนที่เสี่ยงต่อการทิ้งงาน
สำหรับงบลงทุน 570,000 ล้านบาท น.ส.ศิริกัญญาเผยว่า ส่วนใหญ่ไปที่การก่อสร้าง เช่น ถนน 178,676 ล้านบาท การจัดการน้ำ 80,487 ล้านบาท อาคารราชการ 30,686 ล้านบาท โรงเรียน 11,665 ล้านบาท และโรงพยาบาล 10,161 ล้านบาท แต่พบปัญหาการทิ้งงาน เช่น ศาลแขวงพระนครเหนือ 1,377 ล้านบาท ที่ล่าช้า และโครงการ กสทช. ที่ผู้รับเหมาทิ้งงานนาน 3 ปี
เพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชัน สส.พรรคประชาชนเสนอปฏิรูปการจัดงบประมาณ เช่น ใช้ระบบ e-Bidding เพื่อเพิ่มความโปร่งใส หยุดการซอยโครงการ ล้างบางบริษัทขาประจำผ่านแพลตฟอร์มกรมบัญชีกลาง และเลิกอุ้มผู้รับเหมาชั้นพิเศษ พร้อมเรียกร้องการลงทุนที่มียุทธศาสตร์ชัดเจน ไม่ใช่แบ่งเค้กผลประโยชน์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและอุตสาหกรรม
และยังเปรียบเทียบกับการอภิปรายงบปี 2564 ที่วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าไม่ตอบโจทย์วิกฤตโควิด ระบุว่าความรู้สึกวันนี้ไม่ต่างกัน และหากรัฐบาลหมดความชอบธรรม ควรยุบสภา แต่ยอมรับว่า ไม่มีนายกฯ คนไหนยุบสภาตอนความนิยมย่ำแย่ เว้นแต่เกิดศึกภายในพรรคร่วมรัฐบาล และเตือนว่า
อย่าเอาพรรคประชาชนเป็นตัวประกันในการทะเลาะกัน
ประชาชนต้องทนต่อไปสักพัก แต่จะช่วยปรับปรุงงบ 69 ให้ดีขึ้น เสนอหางบพยุงเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลดูไม่ต้องการความช่วยเหลือ ยังยืนยันว่างบนี้ฉลาดและยืดหยุ่น ในฐานะฝ่ายค้านจะตรวจสอบในชั้นกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการต่อไป พยายามลด เลิก หรือเลื่อนโครงการที่ไม่จำเป็นหรือเสี่ยงโกง แม้รัฐบาลจะไม่ฟัง แต่จะทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรี น.ส.ศิริกัญญากล่าวปิดท้าย
อ่านข่าวอื่น :
ตร.โซลเร่งหาปมชายสูงวัยวางเพลิงรถไฟใต้ดิน อพยพ 400 เจ็บ 21
บิ๊กต่ายนำทีม! นั่ง ฮ.ตำรวจหลังยกเลิกแบน บินทองผาภูมิไร้กังวล