จากคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2562 ต่อมา วันที่ 14 ต.ค.2563 ศาลอาญาธนบุรี พิพากษาให้จำคุก นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น จำเลยที่ 1 โทษฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 โทษจำคุก 8 ปี
อ่านข่าว : ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก "น้ำอุ่น" 8 ปี คดีลัลลาเบล
ส่วนพวกอีก 5 คน คือ นายชัยพล พรรณนา หรือ คิว จำเลยที่ 2 นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือ ตี๋ จำเลยที่ 3 น.ส.พิกุลทอง บุญภา หรือ เฟิร์ส จำเลยที่ 4 นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ โนบิ จำเลยที่ 5 นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ หรือปิงปอง จำเลยที่ 6 มีความผิดฐานสนับสนุนกักขังหน่วยเหนี่ยว เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 4 เดือน ให้จำเลยทั้ง 6 คน ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม จำนวน 748,660 บาท
อ่านข่าว : ศาลให้ประกันตัว "น้ำอุ่น-แก๊งปาร์ตี้บางบัวทอง" คดีลัลลาเบล
ต่อมา วันที่ 17 ม.ค.2566 ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก นายรัชเดช หรือ น้ำอุ่น เป็นเวลา 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-4 จำคุก 5 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และส่วนอุทธรณ์จำเลยที่ 5-6 อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นฟังขึ้น ยกฟ้อง
อ่านข่าว : ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก "น้ำอุ่น" 8 ปี คดีพริตตี้ลัลลาเบล
กระทั่ง วันที่ 27 พ.ค.2568 ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีเดียวกัน ระบุตอนหนึ่งว่า พยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วมเท่าที่นำสืบมา จึงยังมีข้อสงสัยตามสมควรว่า จำเลยที่ 5 ร่วมกระทำความผิดฐานสนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิด ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือไม่
เห็นสมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยที่ 5 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 5 มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 5 ฟังไม่ขึ้น
นอกจากนี้ศาลอาญาธนบุรี ยังออกเอกสาร "ใบสำคัญแสดงว่าคดีถึงที่สุด" แล้ว
อ่านข่าว : ญาติ "ครูมัท" วอน ศธ.ทบทวนภาระหน้าที่ครู
สภาพอากาศวันนี้ ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง กทม.เจอฝน 40%