ญาติ "ครูมัท" วอน ศธ.ทบทวนภาระหน้าที่ครู

จากกรณี น.ส.อนุสรา ชวนรัมย์ หรือ ครูมัท อายุ 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ จบชีวิตตัวเอง คาดว่าเกิดความเครียดในการทำงาน เพราะต้องรับผิดชอบหลายหน้าที่ ทั้งสอนหนังสือ , งานธุรการ, การเงิน และพัสดุ 

ก่อนหน้านี้ ผู้เสียชีวิตได้เขียนจดหมายด้วยลายมือ ซึ่งหน้า 1- 4 ระบายความรู้สึกกับคนในครอบครัว คือ พ่อ, แม่, ลูกสาว และพี่สาวส่วนหน้าสุดท้าย ระบายความรู้สึกเกี่ยวกับการทำงาน เนื้อหา ระบุว่า ไม่สบายทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะต้องทำงานด้านการเงิน การบัญชี ที่ต้องรับผิดชอบเพียงคนเดียว โดยเฉพาะ การเคลียร์เอกสารของบุคลากร หลังเบิกเงิน ขณะที่ ผู้บริหารฯ ก็ไม่จริงจังกับการแก้ปัญหา

ขณะที่ นายภัทรวรรธน์ นิลแก้วบวรวิชญ์ ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ไปเคารพศพ พร้อมแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัว

น.ส.อทิตยา พี่สาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ที่ผ่านมา น้องสาวไม่เคยบ่นหรือระบายอะไรเกี่ยวกับงานให้กับคนในครอบครัว แต่เคยเห็นนั่งทำงานจนดึกหลายครั้ง ก่อนเขียนจดหมายระบายความในใจ และผูกคอเสียชีวิต ซึ่งเมื่อได้อ่านจดหมายก็คิดว่า น้องคงเครียดจริง ๆ และคิดว่า มีครูหลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าแสดงออก จึงให้กรณีของ น.ส.เป็นคนสุดท้ายที่ต้องเลือกจบชีวิตกับเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก

รวมทั้งอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาทบทวนภาระหน้าที่ครูให้เหมาะสม ไม่รับผิดชอบงานที่หนักจนเกินไป รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว เพราะยังมีหลานสาววัย 10 ขวบ ที่ต้องสูญเสียแม่

สพฐ.สั่งสอบกรณี "ครูมัท" ให้รายงานผลภายใน 7 วัน

ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ระบุว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในลักษณะเช่นนี้อีก สพฐ.ได้มอบหมายให้สำนักการคลังและสินทรัพย์ ร่วมกับหน่วยตรวจสอบภายใน ทบทวนคู่มือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน โดยเน้นการวิเคราะห์จุดเสี่ยง ปรับปรุงขั้นตอนที่อาจซ้ำซ้อน และออกแบบระบบใหม่ที่เหมาะสมกับข้อจำกัดของโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนในพื้นที่พิเศษ

พร้อมทั้งผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการงานธุรการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เพื่อลดภาระงานเอกสาร และให้ครูสามารถทุ่มเทกับภารกิจหลักคือการสอนได้อย่างเต็มที่ เเละได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยให้รายงานผลภายใน 7 วัน

เครือข่ายก่อการครูออกเเถลงการณ์เรียกร้อง ศธ.ลดภาระให้ครู

ขณะที่ เครือข่ายก่อการครู ออกแถลงการณ์หลังสูญเสียบุคลากรทางการศึกษา โดยมี 4 ข้อที่ต้องการให้หน่วยงานพิจารณาเร่งด่วนโดยต้องการให้ ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านและเป็นธรรม เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และร่วมกันหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำรอย ยกเครื่องระบบการเงินและพัสดุในโรงเรียน ให้โปร่งใส รัดกุม ป้องกันปัญหาการทุจริตและไม่ปล่อยให้ครูต้องรับผิดชอบทุกอย่างเพียงลำพัง ลดภาระงานครูและเพิ่มบุคลากรสนับสนุนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านรวมทั้ง จัดตั้งระบบสนับสนุนสุขภาพจิตในโรงเรียน โดยครูไม่ควรต้องต่อสู้กับความเครียดและความโดดเดี่ยวเพียงลำพัง  

อ่านข่าว : สพฐ.แก้ระบบธุรการโรงเรียนเล็ก ลั่นปฏิรูปเพื่อครู-นักเรียน 

งบปลวกกินหนังสือ! ธีรัจชัยแฉ สพฐ. จ่ายพันล้านซื้อหนังสือเรียน 

4,440 โรงเรียน ใช้หลักสูตรใหม่ปฐมวัย–ประถมต้น ภาคเรียน 1 ปี 68