ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

งบปลวกกินหนังสือ! ธีรัจชัยแฉ สพฐ. จ่ายพันล้านซื้อหนังสือเรียน

การเมือง
13:25
174
งบปลวกกินหนังสือ! ธีรัจชัยแฉ สพฐ. จ่ายพันล้านซื้อหนังสือเรียน
อ่านให้ฟัง
09:06อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ธีรัจชัย" แฉพบงบปลวกกินหนังสือ ศธ. เผย สกสค. รับบทนายหน้ากินส่วนต่างการจัดพิมพ์หนังสือพันล้านบาท จี้ "เพิ่มพูน" จัดการเด็ดขาดและพิสูจน์ไม่ได้เกี่ยวข้อง แนะ กมธ. วิสามัญตัดงบส่วนนี้ ลั่น อย่าให้ต้องอภิปรายเรื่องนี้อีก

วันนี้ (30 พ.ค.2568) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2  เป็นประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569

นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายงบกระทรวงศึกษาธิการ ที่ตั้งหัวข้อว่า "งบปลวก กินหนังสือ" ที่มีการตั้งงบประมาณซื้อหนังสือให้โรงเรียนในสังกัดปีละ 9,000 ล้านบาท หากนับเฉพาะโรงเรียนในสังกัด สพฐ. แต่ละปีงบซื้อหนังสือปีละกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2569 ได้รับการจัดสรรงบ 5,057 ล้านบาท แบ่งเป็นหนังสือเรียนจากสำนักพิมพ์เอกชน 3,000 ล้านบาท และหนังสือเรียนฉบับกระทรวง 2,000 ล้านบาท

โดยการพิมพ์หนังสือของสังกัด สพฐ. มีส่วนต่างค่าจ้างพิมพ์กับหนังสือที่ขาย โดยองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จะมีส่วนต่างจากการพิมพ์ 1,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งเงินในจำนวนนี้คุ้มหรือไม่ หมายถึง สกสค. มีรายได้เพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาท จากส่วนเกินในการขายหนังสือ แต่มองในแง่งบของรัฐ คือรัฐจะต้องจ่ายเงินค่าหนังสือเรียนจากภาษีของประชาชนแพงขึ้น 1,000 ล้านบาท

ท่านประธานสงสัยหรือไม่ว่าหนังสือแพง มันแพงได้อย่างไร ส่วนเกินจากการขายหนังสือ 1,000 ล้านบาท มันมีปัญหาอะไรบ้าง และเป็นงบประมาณปลวกกินหนังสือได้อย่างไร

นายธีรัจชัย กล่าวไล่เรียงเพิ่มเติมถึงต้นทุนที่ให้ สกสค. ตัวกลางการบริหารจัดการจัดทำหนังสือ ที่มีส่วนเกินปีละ 1,000 ล้านบาทจากการขายหนังสือราคาปก แต่รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เหลือ 247 ล้านบาทเท่านั้น แต่ สกสค. ไม่ได้ขายหรือส่งหนังสือ แต่เป็นนายหน้าค้ากำไรเอง โดยปล่อยให้ตัวแทนจำหน่าย 12 รายขายหนังสือแทน และยังทำส่วนลดตัวแทนจำหน่ายสูงถึงร้อยละ 18-30 ของราคาปก หรือราคายอดขายจะอยู่ที่ 360 ล้าน - 600 ล้านบาท/ปี

ถามเหตุผลว่าจำเป็นที่ต้องตั้งส่วนลดให้ตัวแทนจำหน่ายสูงขนาดนี้ สกสค. ทำไปเพื่อ ? รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นประธาน บอร์ด สกสค. ปล่อยให้ทำไปเพื่ออะไร ถ้าเปลี่ยนให้ สพฐ. หรือ สสวท. จ้างพิมพ์เองแล้วให้ตัวแทนจำหน่ายขายแทนก็ได้ ไม่ต้องเสียค่าบริหารอีกต่อไป แบบ สกสค. ที่ทำอยู่ ไม่ดีกว่าหรือ นายธีรัจชัยกล่าว

นายธีรัจชัยยังถามถึงการประกวดราคาจัดพิมพ์หนังสือเรียน มีปลวกกินได้อย่างไร ซึ่ง สกสค. มีการกำหนด TOR กีดกันไม่ให้คู่แข่งรายใหม่เข้าแข่งขันกับเจ้าประจำที่ได้งานมานานหลาย 10 ปี ผ่านการฮั้วราคาล็อกสเปก ให้เจ้าเดิมเป็นเสือนอนกินมาตลอด คนที่ต้องแบกรับคือรัฐ เสียงบที่มาจากภาษีประชาชน ซื้อหนังสือเรียนแพงกว่าที่ควรจะเป็น และไม่มีคุณภาพ ซึ่งรัฐมนตรีก็รู้ดี

พร้อมยกข่าวการฮั้วล็อกสเปกจัดทำหนังสือเรียนปี 2556 ที่โรงพิมพ์ใหญ่แห่งหนึ่งหน้าใหม่เข้ารับงานแข่งขัน แต่โดนกีดกันจากสเปก TOR ไม่ให้แข่งขันกับรายเดิม จนมีการร้องเรียนไปยังศาลปกครอง และสุดท้ายศาลยืนยันไม่ให้มีการกีดกันการประกวดราคา แต่เมื่อเข้าแข่งขัน ได้มีการกำหนดสเปกกระดาษที่พิสดารล้ำลึก เฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ผลิตกระดาษดังกล่าวมีเพียงเจ้าเดียวจากอินโดนีเซียเท่านั้น

พร้อมกันนี้ได้นำกระดาษมาโชว์ในที่ประชุมสภาด้วย ซึ่งกระดาษที่ขายในไทย 70 แกรห์มกิโลกรัมละ 30 บาท ขณะที่กระดาษจากอินโดนีเซีย 80 แกรห์มกิโลกรัมละ 40 บาท และรายละเอียดในการประกวดราคาพบว่าโรงพิมพ์รายเดิมมีการเสนอราคาส่อฮั้ว แต่เมื่อรัฐมนตรีเข้ามา มีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการประกวดราคาจาก E-Bidding เป็นการคัดเลือก

โดยอ้างอิงข้อมูล TOR การฮั้วราคากว่า 115 รายการ ทำให้มีการพิมพ์หนังสือเรียนแพงขึ้นกว่า 100 ล้านบาท ปี 2567 ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ทำหนังสือถึง สกสค. ว่าการประกวดราคาแบบแบ่งกลุ่ม ขัดต่อหลักการตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง ของกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างการบริหารงานภาครัฐปี 2560 และปี 2568 ยังมีปัญหากันกีดกันจะซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส จนยกเลิก TOR ในรอบแรก สรุป สกสค. มีความจำเป็นอะไรที่ต้องพยายามอย่างมาก ไม่ให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม ทั้งที่การแข่งขันจะทำให้รัฐประหยัดงบได้และได้หนังสือที่มีคุณภาพ

ประเด็นสุดท้ายเรื่องการควบคุมคุณภาพปกหนังสือ ซึ่ง สกสค. มีการแยกพิมพ์ระหว่าง "ตัวหนังสือกับปกหนังสือ" ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับโรงพิมพ์หากส่งไม่ครบ แล้วจะนำไปถูกอ้างเรื่องส่งหนังสือไม่ครบตามสัญญา ซึ่งหากตีตามสัดส่วนในแต่ละปี สกสค. จะโดนโกงคิดได้ 30 ล้าน - 40 ล้านบาท/ปี ซึ่งมีการส่งจดหมายร้องเรียนไปยัง รมว.ศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ แต่จนถึงวันนี้ไม่มีการจัดการโรงพิมพ์เหล่านี้ และจนถึงขณะนี้ก็ยังคงรับงาน

ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยู่เฉยได้อย่างไร ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งต้องพิสูจน์ตัวเอง และจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด

นายธีรัจชัย ถามเหตุผลความจำเป็นที่ให้ สกสค. ทำหน้าที่จัดพิมพ์หนังสือต่อไป เมื่อการขายหนังสือไม่ได้เป็นรายได้ของรัฐหรือแผ่นดิน และการบริหารโดย สกสค. ไม่ได้ทำให้รัฐได้ประโยชน์ ยังทำให้เสียงบประมาณแพงเกินกว่า 1,000 ล้านบาท เช่นนี้ หากรัฐให้หาตัวแทนจำหน่ายเองหรือจัดซื้อหนังสือจากเอกชนที่พิมพ์หนังสือแต่ละหลักสูตร จะเป็นประโยชน์กว่าหรือไม่ และการกระทำของ สกสค. ขัดกับมติ ครม.ปี 2516 ที่ระบุว่า จะต้องไม่เป็นไปส่งงานพิมพ์ให้เอกชนรับช่วงต่อในลักษณะนายหน้าค้ากำไร ดูเหมือนจะเป็นการที่ สกสค. นั้นทำอยู่ในขณะนี้

รัฐอาจประหยัดงบได้ถึง 1,000 ล้านบาท หากรัฐจ้างพิมพ์และส่งเองไม่ผ่านตัวกลาง การประกวดราคาจริงไม่ล็อก TOR ผู้ชนะได้เสนอราคาสูงสุดและราคาถูกลงร้อยละ 15 จากราคากลาง ประหยัดได้ถึง 150 ล้านบาท กำหนดราคากลางลดลงตามราคากระดาษที่ลดลงประหยัดได้ถึง 150 ล้านบาท ไม่เสียค่าโง่ปก ปีละ 40 ล้านบาท เปลี่ยนจากตัวแทนจำหน่ายเป็นจ้างพิมพ์หนังสือให้โรงเรียนประหยัดได้ถึง 360-600 ล้านบาท

ถ้าทำอย่างนี้ไม่ต้องให้ สกสค. เป็นผู้บริหารจัดการจ้างพิมพ์หนังสือเอง รัฐประหยัดเงินได้รับ 1,000 ล้านบาทและเสนอให้กรรมาธิการวิสามัญเสนอตัดงบตรงนี้ และขอให้ รมว.ศึกษาธิการ ไปจัดการทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส อย่าให้ต้องมีการอภิปรายอีกในสภาแห่งนี้ นายธีรัจชัยกล่าว

อ่านข่าวอื่น :

เตือนพื้นที่เสี่ยงริมน้ำ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 1,050 ลบ.ม./วินาที

ไอเดียกระฉูด “ทักษิณ” ปราบยา- ว้าแดง คิดได้แต่ทำยาก