ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พลิกเกม-หลังพิงกองทัพ “เพื่อไทย” ทู่ซี้เดินหน้าต่อเมินยุบสภา-ลาออก

การเมือง
16:19
165
พลิกเกม-หลังพิงกองทัพ “เพื่อไทย” ทู่ซี้เดินหน้าต่อเมินยุบสภา-ลาออก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

แล้วนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็ตั้งโต๊ะแถลงเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง เรื่องปมปัญหาขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง และผู้นำเหล่าทัพที่ทำเนียบ โดยมีระดับ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.ยืนประกบอยู่แถวหลังระหว่างการแถลง

นอกจากเริ่มต้นด้วยคำกล่าวขออภัยพี่น้องประชาชน กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างตนกับฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นแล้ว ยังพูดย้ำว่า ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาค 2 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง และผู้นำกองทัพ เพื่อทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว กรณีมีการพูดพาดพิงแม่ทัพ 2 ในการสนทนากับ ฮุน เซน ซึ่งเป็นเพียงทางเทคนิคของการสื่อสาร และไม่ทราบจริง ๆว่า จะมีการอัดคลิปเสียงและเผยแพร่ผ่านโซเชียล

ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่เพียงภัยคุกคามเล็ก ๆ ทั้งรัฐบาลและกองทัพ ต่างเห็นตรงกันเรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ และรัฐบาลยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ ตามที่กองทัพต้องการ

สะท้อนนัยรัฐบาลกับกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่คนละฝ่ายอย่างที่กล่าวอ้างถึงในคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน

เท่ากับใช้หลังพิงกองทัพ ในช่วงจังหวะที่ทหารและกองทัพ ได้รับเสียงหนุนเชียร์จากประชาชน จากการแสดงจุดยืน พร้อมปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนของไทย และซัดกลับว่า ทางกัมพูชาต่างหากที่ละเมิดเอ็มโอยู 43 หลายร้อยครั้ง ชอบรุกเข้ามาในพื้นที่ของไทย แต่สำหรับรัฐบาลไทย กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน นับจากกรณีพิพาทช่องบก เป็นต้นมา

จึงต้องขออภัยที่ทำให้ไม่สบายใจ และขอให้ประชาชนและทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ในช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวคึกคักจากหลายพรรคการเมือง ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนต่อเรื่องนี้ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์จากผู้คนทั่วไปอย่างเข้มข้นในโลกโซเชียล

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดย คปท. นัดรวมพลอยู่กันยาวถึง 24 มิ.ย. แถวๆ ทำเนียบเพื่อขับไล่รัฐบาล ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองรุ่นอาวุโส นัดรวมพลเคลื่อนไหวที่โรงแรมณเฑียร ในวันศุกร์นี้เช่นกัน

นับเป็นการชิงพลิกเกมของทางรัฐบาล หลังเป็นฝ่ายตั้งรับ ตั้งแต่มีคลิปเสียงสนทนาของ 2 ผู้นำไทย-กัมพูชา ถูกปล่อยเผยแพร่ในโลกโซเชียล ตั้งแต่วันพุธ (18 มิ.ย.) และยิ่งเพิ่มกระแสกระแสความไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น หลังการตั้งโต๊ะแถลงยอมรับว่าโทรศัพท์พูดคุยกับ ฮุน เซน จริง แล้วถูกแอบบันทึกเสียงสนทนา ก่อนถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์

ทำให้เกิดบรรยากาศแบบ “ชวนเดือด” ตลอดทั้งช่วงบ่ายถึงช่วงเย็น และต่อเนื่องถึงช่วงสาย ๆวันที่ 19 มิ.ย.จึงค่อย ๆ ผ่อนคบลายลง หลังการตั้งโต๊ะแถลงของนายก โดยใช้หลังอิงกองทัพดังกล่าว และใช้คำกล่าวขออภัยหลายครั้ง แต่ไม่มีคำว่า “ขอโทษ”

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ส่งผลให้บรรยากาศทางการเมืองที่อึมครึมก่อนหน้านี้ กลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิมได้ เพราะรัฐบาลเพิ่งแตกดังโพล๊ะ จากการประกาศถอนยวงจากรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย อันเป็นผลจากการถูกทวงคืนเก้าอี้มหาดไทยจากพรรคเพื่อไทย

เสียง สส.ฝ่ายรัฐบาลจะหายไปทันที 69 เสียง เหลือเพียง 261 เสียง จาก สส.ที่มีในสภาผู้แทนฯทั้งหมดปัจจุบัน 495 เสียง เกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาฯ 247 เสียงอยู่ประมาณ 13 เสียง ซึ่งในทางปฏิบัติจัดได้ว่าปริ่มน้ำมาก แต่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล จะเลือกเดินหน้าต่อ โดยปฏิเสธเรื่องยุบสภาฯ และนายกฯ ลาออก ซึ่งเป็นอีก 2 ทางเลือก เพราะจะทำให้อำนาจทางการเมืองสิ้นสุดลง และสุ่มเสี่ยงอย่างมากว่า จะได้กลับมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกหรือไม่

เท่ากับจะเปิดโอกาสให้พรรคประชาชน มีโอกาสจะชนะเลือกตั้ง และชิงความเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน

3 ทางเลือกที่มีอยู่ พรรคเพื่อไทยจึงน่าจะเดินหน้าทู่ซี้ไปต่อ และหวังลากยาวให้นานที่สุด

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : นักวิชาการชี้ปมคลิปหลุด "เพื่อไทย" เผชิญแรงกดดันลาออก-ยุบสภา

"นักวิชาการ" อ่านเกมคลิปเสียงปิดประตูเจรจาลับการทูต เชื่อ "กัมพูชา" ยังมีไพ่เด็ดอีก 4 ใบ

ไทม์ไลน์ 24 ชั่วโมงหลัง “คลิปหลุด” ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม