วันนี้ (19 มิ.ย.2568) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และคณะกรรมการดำเนินการของพรรค ณ ที่ทำการพรรค เพื่อพิจารณาวาระพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง หลังคลิปเสียงหลุดการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สร้างความวุ่นวายและแรงกดดันต่อรัฐบาลเพื่อไทย การประชุมใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยมี สส.ทั้ง 10 คนของพรรคเข้าร่วมครบถ้วน ได้แก่
- นายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ
- นายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี เขต 1
- นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี เขต 2
- นายนพดล มาตรศรี สส.สุพรรณบุรี เขต 3
- นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สส.สุพรรณบุรี เขต 4
- นายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี เขต 5
- นายศุภโชค ศรีสุขจร สส.นครปฐม เขต 1
- นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม เขต 3
- นายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม เขต 5
- นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด เขต 1

หลังจากการประชุม นายวราวุธแถลงว่า ที่ประชุมมีการเสนอความเห็นหลากหลาย แต่ทุกคนเห็นพ้องว่า ข้อมูลเกี่ยวกับคลิปเสียงยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่มีโอกาสหารือกับนายกฯ เพื่อสอบถามรายละเอียด ย้ำว่าพรรคชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญสูงสุดกับอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศไทย โดยเฉพาะประเด็นตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
จะสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถสร้างความมั่นคงทางอธิปไตยให้กับประเทศไทย เราไม่อยากให้ความสุ่มเสี่ยงเกิดขึ้นกับอธิปไตยของประเทศ
ทั้งนี้ สมาชิกพรรคได้มอบหมายให้นายวราวุธเป็นตัวแทนหารือกับ น.ส.แพทองธาร เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับคลิปเสียงและแนวทางแก้ไขสถานการณ์ โดยผลการหารือจะนำกลับมาพิจารณาในที่ประชุมพรรคเพื่อกำหนดทิศทางต่อไป นายวราวุธย้ำว่า ความเข้มแข็งของรัฐบาลในการปกป้องอธิปไตยและประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้
ยังไม่รู้วัตถุประสงค์ของการปล่อยคลิป และยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ ตั้งแต่เกิดเหตุ ข้อมูลที่มีอยู่ในมือยังไม่ครบถ้วน และยังไม่มีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคนใดได้หารือกับนายกฯ ในประเด็นนี้
นายวราวุธชี้แจงว่า การสนับสนุนความมั่นคงของชาติและรัฐบาลในขณะนี้ ไม่ได้หมายความว่าพรรคจะร่วมรัฐบาลต่อไปอย่างแน่นอน แต่ชาติไทยพัฒนาถือเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลในช่วงวิกฤต โซเชียลมีเดียอาจกดดันให้ตัดสินใจทันที แต่เราจะไม่นำอธิปไตยชาติมาเสี่ยง พร้อมยืนยันว่าหากได้ข้อมูลครบถ้วนจากนายกฯ พรรคจะนำมาหารือเพื่อกำหนดแนวทางต่อไป
ส่วนเงื่อนไขที่อาจทำให้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล นายวราวุธระบุว่า ต้องรอผลการหารือกับนายกฯ ก่อน โดยย้ำจุดยืนของพรรคที่ชัดเจนตั้งแต่การเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 ซึ่งชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคแรกที่แสดงจุดยืนสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล และยึดมั่นในจุดยืนนั้นตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน จนถึงรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร
สำหรับการนัดหารือกับนายกฯ นายวราวุธเผยว่า ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา เนื่องจากเพิ่งสรุปการประชุมพรรค แต่ยอมรับว่าควรมีการพูดคุยโดยเร็ว โดยเฉพาะเมื่อมีกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ทราบว่าพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ เช่น พรรคเพื่อไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ กำลังประชุมเพื่อกำหนดท่าทีเช่นกัน การจับมือกับนายกฯ ในช่วงนี้อาจถูกวิจารณ์ แต่ความเข้มแข็งของรัฐบาลจะสะท้อนผ่านการทำงานร่วมกันของพรรคร่วม ซึ่งต้องมีการหารือถึงความเห็นของแต่ละฝ่าย
นายวราวุธแสดงความเห็นถึงคลิปเสียงว่า การสนทนาดูเหมือนเป็นการคุยส่วนตัวระหว่าง "ลุง-หลาน" แต่การที่คลิปถูกปล่อยออกมาสร้างความวุ่นวาย โดยไม่ทราบเจตนาที่แท้จริง สิ่งสำคัญที่สุดคือความมั่นคงของอธิปไตยตามตะเข็บชายแดน เราไม่อยากให้เกิดความเสี่ยง พร้อมย้ำว่าการตัดสินใจของพรรคจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ครบถ้วนและการหารือกับนายกฯ

รทสช.ประชุมเสร็จ "พีระพันธุ์" บอกขอคุยนายกฯ ก่อน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค รทสช. พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค เข้าร่วมประชุม ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ติดภารกิจ ส่วนนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม ซึ่งทั้งนายเกรียงยศ และนายเกชา อยู่กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค โดยเริ่มประชุมเวลา 17.00 น.
จากนั้นเวลา 18.40 น. แกนนำพรรคเริ่มทยอยเดินทางกลับ โดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกล่าวเพียงสั้นๆว่า "ให้รอหัวหน้าพรรคแถลง" จนเวลา 19.00 น. นายพีรพันธุ์ ลงมาเดินฝ่าวงล้อมสื่อเดินทางออกจากพรรค โดยไม่ได้แถลงมติพรรคแต่อย่างใด กล่าวเพียงว่า "ขอนำมติไปคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน" ซึ่งไม่ได้ระบุว่ามติดังกล่าวเป็นอย่างไร และขึ้นรถออกจากที่ทำการพรรคไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นายกรัฐมนตรี ต้องไปแก้ปัญหาทางการเมือง หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ถอนตัวจะทำให้เสียงพรรคร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายค้าน ทำให้ต้องมีการยุบสภา ขณะที่กระแสพรรคประชาชน จะมาอย่าง ท่วมท้น มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้นายพีระพันธุ์ ไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ยอมรับได้ หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทย ยังมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่เหลืออยู่ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ

ประชุม กก.บห.ประชาธิปัตย์ ไม่ชัดเจน อ้างรอเอกสารฉันทามติ
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าเสียงส่วนใหญ่ให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปเจรจากับนายกรัฐมนตรี ประเด็นเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของประเทศไทย ในข้อพิพาทกับกัมพูชา ไม่ใช่ข้อต่อรองเรื่องโควตาตำแหน่งรัฐมนตรี ที่พรรคภูมิใจไทยลาออกไป ตรงกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยืนยันไปแล้วว่ายังไม่มีการต่อรองหรือติดต่อใดๆ มาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็มียืนยันในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคด้วย
ด้าน น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ความชัดเจนเรื่องศักดิ์ศรีของประเทศไทย เป็นฉันทามติที่จะสรุปส่งเป็นเอกสารให้กับนายกรัฐมนตรีตอบคำถามเรื่องนี้
แต่ยอมรับว่า การประชุมมีความเห็นที่หลากหลาย กรรมการบางคนมีข้อเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยเหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเอกสารฉันทามตินี้ จะมีคำถามถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความรับผิดชอบคำพูดด้วยการลาออกหรือไม่ แต่ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า จะมีประเด็นหลักแค่เรื่องเดียว โดยผู้ที่จะไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี คือ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
อ่านข่าวอื่น :