ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"นักวิชาการ" อ่านเกมคลิปเสียงปิดประตูเจรจาลับการทูต เชื่อ "กัมพูชา" ยังมีไพ่เด็ดอีก 4 ใบ

ต่างประเทศ
15:52
671
"นักวิชาการ" อ่านเกมคลิปเสียงปิดประตูเจรจาลับการทูต เชื่อ "กัมพูชา" ยังมีไพ่เด็ดอีก 4 ใบ
อ่านให้ฟัง
08:11อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักวิชาการธรรมศาสตร์ วิเคราะห์กรณีปล่อยคลิปเสียงนายกฯ กับ “ฮุนเซน” กระทบการทำงานภายในประเทศไทย คาด “อิ๊งค์” ยกหูเองไม่ปรึกษาทีม ระบุผลพวงเหตุการณ์นี้ปิดประตูตายการเจรจาลับทางการทูต ขณะที่เกมยาว “กัมพูชา” ยังมีไพ่เด็ดอีก 4 ใบ ในชั้นศาลโลก

วันนี้ (19 มิ.ย.2568) ผศ.ดร.ธนภัทร ชาตินักรบ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า การปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดน ไทย–กัมพูชา ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กัมพูชา กำลังเดินเกมส่งเรื่องข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก

ทั้งนี้ เนื่องจากคลิปเสียงดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นภายในของทีมประเทศไทยด้วยกันเอง เพราะมีความเป็นไปได้ว่า การยกหูโทรศัพท์ต่อสายพูดคุยกับ ฮุน เซน เป็นการตัดสินใจของ น.ส.แพทองธารโดยลำพัง ไม่ผ่านการปรึกษาจากคณะทำงานร่วม ตรงนี้สะท้อนผ่านท่าทีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ดูสับสนและไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงแรก

มากไปกว่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังถือเป็นการปิดตายประตูการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้นำไทยปัจจุบันและกัมพูชา เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันได้ถูกทำลายลงแล้ว ทั้งที่การเจรจาในทางลับถือเป็นเรื่องปกติทางการทูต เพื่อบริหารจัดการความขัดแย้งให้เข้าสู่ภาวะปกติ

ผศ.ดร.ธนภัทร กล่าวว่า หนึ่งในเหตุจูงใจของการปล่อยคลิปเสียง อาจมาจากความต้องการสร้างคะแนนนิยมของ ฮุน เซน

ต้องการทำให้ประชาชนในกัมพูชาเห็นว่า ตนอยู่ในสถานะที่เหนือกว่านายกรัฐมนตรีของไทย ทำให้นายกรัฐมนตรีไทยที่ต้องอ่อนน้อมและเป็นฝ่ายเข้าหาตน

อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความขึงขัง เอาจริงเอาจัง และเด็ดขาดในการเจรจาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ มากกว่าการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีต่อผู้นำรัฐบาลไทย ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่ ฮุน เซน กำลังโดนข้อครหาจากหลายฝ่ายในประเทศ

ด้าน ดร.ภัทรพงษ์ แสงไกร อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หากมองเกมยาวต่อสถานการณ์ที่กัมพูชากำลังยื่นเรื่องข้อพิพาท 4 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก

ประเทศไทยจำเป็นต้องอ่านเกมให้ขาด ว่ากัมพูชาต้องการอะไร และมีไพ่อะไรบ้างอยู่ในมือบ้าง ส่วนตัวคิดว่ากัมพูชาน่าจะถือไพ่อยู่ในมือหลายรูปแบบ แต่จากสถานการณ์ ณ วันนี้ คิดว่าไทยควรโฟกัสไพ่เพียง 4 ใบ น่าจะเพียงพอ

ไพ่ใบที่ 1 เรียกว่า forum prorogatum คือการยื่นเรื่องเข้าสู่ศาลโลก ทั้งที่รู้ว่า ศาลโลกไม่มีเขตอำนาจ เพราะไทยไม่ได้ให้ความยินยอม โดยข้อดีของกรณีคือ กัมพูชาจะได้ภาพลักษณ์ ว่าเป็นประเทศที่ยึดหลักสันติวิธี เคารพกฎหมาย เคารพกระบวนการยุติธรรม เป็นการสร้างความชอบธรรมในสายตานานาประเทศและช่วยสร้างคะแนนนิยมในประเทศให้รัฐบาลด้วย

ถ้ากัมพูชาเล่นไพ่ใบนี้จะเป็นการง่ายสำหรับไทย เพราะรัฐบาลไทยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถส่งหนังสือยืนยันว่า ศาลไม่มีเขตอำนาจในข้อพิพาทนี้ กระบวนการทั้งหมดจะยุติแค่นั้น ไม่มีคดีเกิดขึ้น ไม่มีข้อมูลในสารบบความของศาล แต่ไทยอาจจะต้องอธิบายกับนานาชาติด้วยว่า กลไกอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว ทำงานได้ดีกว่าการไปศาลอย่างไรบ้าง

ไพ่ใบที่ 2 คือการยื่นฟ้อง โดยอ้างหลักฐานบางอย่างว่า ไทยให้ความยินยอม ไพ่ใบนี้จะทำให้กัมพูชาได้เปรียบไทยขึ้นมา เพราะหากกัมพูชาสามารถแสดงหลักฐานอะไรบางอย่างได้ว่า ไทยยินยอมให้นำข้อพิพาทไปศาลโลก จะทำให้เกิดคดีขึ้น และเข้าสู่สารบบความของศาล

ด้วยเหตุนี้จะส่งผลให้ไทย อาจจะต้องไปแถลงการณ์สู้คดีในศาลจริงๆ แม้ในท้ายที่สุดศาลจะตัดสินว่าไทยชนะ เพราะศาลไม่มีเขตอำนาจ แต่อย่างน้อยๆ กัมพูชาก็จะได้ไปขึ้นศาลจริงๆ ตามที่ต้องการ

ข้อดีที่เพิ่มมาจากไพ่ใบแรกคือกัมพูชาจะมีสิทธิร้องขอคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน สำหรับไทยอาจจะต้องเตรียมรับมือให้ดี ไม่ควรประมาท จากข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้ทั่วไป ณ ขณะนี้ ส่วนตัวยังคิดว่าถ้ากัมพูชาเล่นไพ่ใบนี้จริงๆ ไทยน่าจะชนะ เพราะศาลไม่มีเขตอำนาจ แต่เราต้องไม่ประมาท

ไพ่ใบที่ 3 คือการตีความคำพิพากษาคดีพระวิหาร ทั้งคำพิพากษาคดี ปี ค.ศ. 1962 และปี ค.ศ.2013 ซึ่งคู่ความในคดีมีสิทธิตามธรรมนูญศาล สามารถร้องขอให้ศาลตีความคำพิพากษา ในกรณีที่มีข้อพิพาทกันในเรื่องความหมายหรือขอบเขตของคำตัดสิน

ถ้ากัมพูชาจะเล่นไพ่ใบนี้ ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ข้อพิพาทใหม่ในเรื่องพื้นที่ 4 แห่ง เกี่ยวข้องอย่างไรกับคำพิพากษาเดิม การเตรียมตัวของไทยก็เหมือนไพ่ใบที่สอง ต้องเตรียมตัวสู้คดีอย่างเต็มที่ ไม่ประมาท

ไพ่ใบที่ 4 คือการนำเรื่องเข้าสมัชชาองค์การสหประชาชาติ (UNGA) โดยอ้างว่ามีเหตุการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนอาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และสันติภาพระหว่างประเทศ UNGA มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ยังมีอำนาจในการร้องขอให้ศาลโลกออกความเห็นเชิงแนะนำ (advisory opinion) เกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมายที่อยู่ภายในขอบเขตหน้าที่ของ UNGA แต่เดิมกลไกการร้องขอความเห็นนี้ไม่ได้ออกแบบมาใช้เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ

ทว่า ในปัจจุบันหลายๆ ประเทศหันมาใช้กลไกนี้เพื่อระงับข้อพิพาท เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาว่าศาลโลกไม่มีเขตอำนาจ และเมื่อ UNGA ร้องขอความเห็นไป ศาลโลกก็ได้ออกความเห็นทางกฎหมายมา เพราะถือว่าอยู่ในขอบเขตหน้าที่ของ UNGA

ส่วนตัวคิดว่าไพ่ใบนี้จะทำให้กัมพูชาได้เปรียบมาก เพราะสามารถยกระดับข้อพิพาทให้ไปสู่เวทีโลก สร้างความสนใจจากนานาชาติ และในท้ายที่สุดอาจจะไปถึงกระบวนการที่ศาลต้องพิจารณาเรื่องพื้นที่พิพาทอย่างที่กัมพูชาต้องการ แน่นอนว่ากัมพูชาจะต้องล็อบบี้ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติอย่างแข็งขัน เพื่อให้เสียงข้างมากมาลงมติเพื่อร้องขอความเห็นต่อศาล ฝ่ายไทยจะต้องเตรียมตัวต้องรับให้รัดกุมที่สุด

อ่านข่าว : กต.ส่งหนังสือประท้วง "กัมพูชา" ปมคลิปเสียง ชี้ผิดมารยาท-ทำลายความเชื่อใจ

ไทม์ไลน์ 24 ชั่วโมงหลัง “คลิปหลุด” ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม

"ภูมิธรรม" ยันรัฐบาลเสียงพอแม้ ภท.ถอนตัว-พรรคร่วมเหนียวแน่น