วันนี้ (24 ก.ค.2568) สมเด็จฮุน เซน โพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธการรายงานของสื่อไทยที่ระบุว่า ตนเองได้เดินทางออกจากกัมพูชาไปประเทศจีน โดยสมเด็จฮุน เซน ชี้แจงว่า กำลังร่วมปฏิบัติหน้าที่สั่งการทางทหาร ร่วมกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการสูงสุด และผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธทุกระดับชั้น ผ่านวิดีโอและแพลตฟอร์มการสื่อสารอื่นๆ และยืนยันว่ายังไม่ได้หนีไปไหน
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ยังนั่งอยู่ที่นี่ ตั้งแต่แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยระบุว่าจะปิดทางเข้าปราสาทตาเมือนธม และระบุด้วยว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยเป็นผู้ก่อให้เกิดสงครามนี้ ด้วยการสั่งให้ปิดปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 23 ก.ค. และเปิดฉากยิงโจมตีกองทัพกัมพูชา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค.
เช่นเดียวกับกระทรวงข้อมูลข่าวสารกัมพูชา โพสต์อ้างคำพูดของโฆษกสมเด็จฮุน เซน โดยปฏิเสธการรายงานข่าวของสื่อไทย และยืนยันว่าสมเด็จฮุน เซน ยังคงอยู่ในกัมพูชา และทำหน้าที่บัญชาการกองทัพอยู่ในขณะนี้

"ฮุน มาเนต" เรียกร้อง UNSC จัดประชุมฉุกเฉิน
ส่วน ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยแพร่หนังสือที่ส่งถึงเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) วาระปัจจุบัน โดยเรียกร้องให้ UNSC จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหยุดยั้งการรุกรานของไทย รวมถึงขอให้เผยแพร่หนังสือฉบับนี้ ซึ่งมีเนื้อหาชี้แจงการกระทำอันก้าวร้าวของไทยไปยังสมาชิก UNSC ให้รับทราบ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ประณามการกระทำอันไร้ความรอบคอบและเป็นปฏิปักษ์ของไทย โดยชี้แจงว่า กองทัพไทยจงใจเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นของกองทัพกัมพูชาและวางแผนล่วงหน้า โดยปราศจากการยั่วยุใดๆ จากกัมพูชา ซึ่งถือเป็นภัยต่อสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดนระหว่างกัน แสดงถึงการไม่เคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศโดยสิ้นเชิง
กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการปะทะทั้งหมดทันที รวมถึงถอนกำลังกลับเข้าสู่ดินแดนของตนเอง และหลีกเลี่ยงการยั่วยุเพิ่มเติมที่อาจทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่ากัมพูชามีสิทธิที่จะป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ

"กลาโหมกัมพูชา" แจงไทม์ไลน์เหตุปะทะชายแดน
ส่วนกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อสิ่งที่เรียกว่าเป็นการรุกรานทางทหารอันโหดร้ายและก้าวร้าวของไทย พร้อมทั้งชี้แจงลำดับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การปะทะกัน โดยระบุว่า เมื่อเวลา 06.30 น.ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยเริ่มยั่วยุก่อน โดยละเมิดข้อตกลงที่ตกลงกันไว้ด้วยการติดตั้งลวดหนาม บริเวณปราสาทตาเมือนธม
ต่อมาเวลา 07.04 น. พบว่า โดรนของฝ่ายไทยบินเหนือน่านฟ้ากัมพูชาเป็นเวลา 2 นาที และในเวลา 08.30 น. ฝ่ายไทยได้เปิดฉากยิงขึ้นฟ้า จากนั้นเวลา 08.46 น. กองกำลังไทยยิงใส่กองกำลังกัมพูชาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และขยายการโจมตีไปที่ปราสาทตาควาย บริเวณภูเขาพนมกะโมจ รวมถึงพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต จึงทำให้กองกำลังกัมพูชาเปิดฉากตอบโต้การรุกรานของไทย เมื่อเวลา 08.47 น.
กระทรวงกลาโหมกัมพูชายังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ ประณามการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของไทย พร้อมทั้งยืนยันว่ากองทัพกัมพูชาพร้อมปกป้องอธิปไตยและประชาชนของตนอย่างเต็มที่

ขณะที่สำนักข่าว AFP เผยแพร่ภาพทหารกัมพูชาใน จ.พระวิหาร ที่บรรจุกระสุนใส่เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง รวมทั้งภาพในขณะที่ยานพาหนะจำนวนมากเร่งเดินทางออกจากพื้นที่ชายแดน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา
ส่วนสำนักเฟรช นิวส์ รายงานล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ว่า กองกำลังกัมพูชาและไทยยังคงปะทะกันตามแนวชายแดน พร้อมทั้งระบุว่ากองกำลังกัมพูชาขับไล่ทหารไทยสำเร็จแล้ว และยังคงควบคุมพื้นที่ปราสาทตาเมือนและปราสาทตาควายได้อย่างสมบูรณ์
อ่านข่าว
กัมพูชาสั่งกองทัพตอบโต้ อ้างไทยรุกรานตาเมือนธม
แท็กที่เกี่ยวข้อง: