วันนี้ (29 ก.ย.2568) สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก, น.สพ.นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า เปิดเผยการดูแลรักษา "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง หลังเคลื่อยย้ายจากอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ในวันนี้ ลูกช้างป่ากินนมและกินน้ำได้ ขับถ่ายได้ อุจจาระมีลักษณะเหลว ปัสสาวะสีใส บริเวณสะดือพบหนองน้อยลง และเล็บมีหนอง ต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน สัตวแพทย์ทำการเก็บตัวอย่างอุจจาระส่งตรวจคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
สัตวแพทย์ทำการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ขณะที่การตรวจวัดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดพบว่าปกติ โดยทำกายภาพบำบัดด้วยการใช้เครื่องอัลตราซาวด์ ทำหัตถการยืดเหยียดข้อต่อ การตรวจอาการพบว่า ขาหน้าเริ่มคลายตัวเล็กน้อย จากการที่ได้ทำกายภาพบำบัดรักษา และมีการจิกเท้าก้าวเดินได้มากขึ้น

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ทั้งนี้ ลูกช้างป่ามีกำลังในการถีบตัวเอง เพื่อให้ตัวเองยืนขึ้นบ่อยครั้งขึ้น โดยมีสัตวแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ช่วยพยุงตัว จับเท้ายืดเหยียด ขณะเดิน

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
อย่างไรก็ตาม สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ยังคงต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะลูกสัตว์ที่อ่อนแอสามารถมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพได้ และในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) สัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จะเข้าทำการตรวจอาการและวางแผนการกายภาพเพิ่มเติมต่อไป

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
อ่านข่าว : ผลตรวจ "น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่า พบภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
อัปเดตอาการ "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง อาการดีขึ้น พยายามลุกยืน
ลูกช้างป่า "ข้าวต้ม" กินนม-ขับถ่ายได้ แต่ค่าตับค่าไตยังสูง
แท็กที่เกี่ยวข้อง: