ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ศิริกัญญา" อัด"รัฐบาล" ลุกลี้ลุกลนเดินเครื่องโครงการคนละครึ่ง

การเมือง
20:06
137
"ศิริกัญญา" อัด"รัฐบาล" ลุกลี้ลุกลนเดินเครื่องโครงการคนละครึ่ง
"ศิริกัญญา" อัด"รัฐบาล" ลุกลี้ลุกลนเดินเครื่องโครงการ "คนละครึ่ง" ส่อหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ ชี้ไม่คาดหวัง 4 เดือน​ แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ แต่อย่าสร้างความเสียหายจนแก้ไม่ได้ในอนาคต ถามจะมีประโยชน์อะไรหากรัฐมนตรีคนนอกโปรไฟล์ดีนั่งนิ่งยอมให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้

วันนี้ (29 ก.ย.2568) การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปราย​ว่า คำแถลงนโยบายของรัฐบาลยังคงอยู่ในรูปแบบเดิม ๆ ไม่ได้แตกต่างจาก 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ หรือแม้กระทั่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี มีแต่คำกว้าง ๆ ลอย ๆ ขาดความชัดเจนของเป้าหมายที่จะไปถึง ไม่มีการใส่ตัวชี้วัดใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้จะมีไทม์ไลน์ที่แน่ชัดว่าทุกอย่างจะต้องเสร็จภายใน 4 เดือน ซึ่งรอบนี้ไม่ได้คาดหวังกับรัฐบาลว่าจะต้องมีนโยบายในการแก้ไขปัญหา มีการตั้งเป้าหมาย และไม่ได้คาดหวังแม้กระทั่งต้องทำตามนโยบายที่หาเสียง เพราะระยะเวลาของรัฐบาลสั้น และมีข้อจำกัดในด้านของเวลาและงบประมาณ

แต่สิ่งที่เราคาดหวังคือการบริหารจัดการประเทศไปแบบประคับประคองไปจนถึงการเลือกตั้ง เน้นแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะจุดเฉพาะด้าน และต้องไม่ตัดสินใจที่จะทำให้เกิดความเสียหายแบบที่แก้ไขอะไรอีกไม่ได้ในอนาคต และต้องไม่ฉวยโอกาสในการหากินจากภาษีของประชาชน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า คำแถลงนโยบายฉบับนี้ไม่ได้สร้างความกระจ่างชัดเจน แต่สร้างคำถามตามเต็มไปหมด ในด้านของเศรษฐกิจ ที่ใส่เข้ามามีแต่ What คืออะไร แต่ขาด How ว่าจะทำอย่างไรให้เสร็จภายใน 4 เดือน ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ ต้องยอมรับว่าพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่มีวาระการเมืองและนโยบายทางการเมืองแบบที่พรรคอื่นมี จึงไม่ได้มีการเตรียมนโยบายมาอย่างเข้มข้นเพื่อขับเคลื่อน แม้จะมีรัฐมนตรีคนนอกที่มาจากภาคธุรกิจ เป็นนักธุรกิจ แต่อาจยังเร็วเกินไป จึงคิดไม่ทัน ยังไม่ตกผลึกว่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการใด

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ยกตัวอย่างโครงการคนละครึ่ง คิดว่าไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่แปลกใจที่ผู้ให้รายละเอียดกลับไม่ใช่รองนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ รมว.คลัง แต่เป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจ ซึ่งอาจจะเป็นโฆษกรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่ชวนให้คิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการการเมืองหรือเป็นโครงการทางด้านเศรษฐกิจกันแน่

นอกจากนี้ มีการประกาศว่าคนละครึ่งพลัส จะเป็นเพียงเฟสแรกเท่านั้น คาดว่าจะจบในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ และเฟสอื่น ๆ ในปีหน้า แต่เพียงเฟสแรกใช้งบประมาณถึง 66,400 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.5 ล้านคน โดยการเติมเงิน 1,700 บาทต่อคน ใช้งบประมาณ 22,000 ล้านบาท ผู้ที่ไม่ได้ยื่นภาษี 9 ล้านคน รัฐสมทบ 2,000 บาทต่อคน ใช้งบประมาณ 18,000 ล้านบาท และผู้ที่ยื่นภาษี 11 ล้านคน รัฐสมทบ 2,400 บาทต่อคน ใช้งบประมาณ 26,400 ล้านบาท ตนเองเข้าใจว่าจะใช้งบกลางของปี 2568 ยังเหลือในส่วนของรายจ่ายฉุกเฉินจำเป็นประมาณ 30,000 ล้านบาท และมีงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ไม่ได้ทำแล้วและอนุมัติไม่หมดก็ยังเหลืออยู่

"หากจะใช้งบกลางปี 68 ต้องมีมติ ครม.อนุมัติให้ทันภายใน 30 ก.ย.นี้ จึงได้เร่งรัฐสภาให้แถลงให้จบในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ก่อนจะมีประชุม ครม.นัดพิเศษที่รัฐสภา เราก็ว่าทำไมเร่งเราจังเลย มีกระทั่งว่าให้แถลงนโยบายวันอาทิตย์ เพราะต้องเร่งอนุมัติงบทั้งหมด 63,000 ล้านบาท พรุ่งนี้เขาจึงบอกว่าให้เราอภิปรายให้เสร็จ 6 โมงเย็น เพราะจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษต่อ ถือว่ารีบร้อนมาก กรมบัญชีกลางคงต้องเปิดระบบกดปุ่มกันกลางดึก เพื่อโอนเงินเข้าระบบสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ใช้เงินทัน ทำเพื่ออะไรกันคะ"

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ตนมองว่ามีเรื่องน่าประหลาดใจอยู่ ตอนที่รัฐบาลชุดที่แล้วอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจไม่หมด เราก็ถามว่าจะมีโครงการอื่นหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่าไม่มี ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ได้ลดการขาดดุล ลดการกู้เงินเพิ่มได้ เพื่อไม่ให้เพิ่มหนี้สาธารณะ แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็นำออกมาใช้ทันที ตกลงแล้วเราควรจะใช้งบก้อนนี้ให้หมดจนหยดสุดท้ายจริงหรือไม่ ส่วนในงบคนละครึ่งพลัสที่รวมทั้งคนยื่นและไม่ได้ยื่นภาษี จำนวน 44,000 ล้านบาท จะใช้งบปี 69 ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของกระสุนการคลังที่เราเหลืออยู่ ซึ่งรัฐบาลเองบอกว่าจะมีการทำเฟส 2 ต่อ มีโครงการลดค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าทางด่วน รวมถึงเยียวยาผลกระทบภาษีทรัมป์ ฟื้นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว รัฐบาลกะจะไม่เหลือเงินสำรองจ่ายไว้ให้รัฐบาลหน้าใช้เลยหรือ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อไปอีกว่า ยิ่งลุกลี้ลุกลนอยากอนุมัติงบฯ ให้ได้ ยิ่งน่าเคลือบแคลง ตนไม่ติดเรื่องคนละครึ่งแม้จะไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากรัฐบาลอยากกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้ารายย่อยก็ทำได้สามารถพิสูจน์มาแล้ว แต่ถ้าหากอยากให้กระตุ้นเศรษฐกิจต้องมีการปรับปรุงเงื่อนไข เช่น กำหนดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 200 บาทขึ้นไป สิทธิ์อาจจะต้องหมดวันต่อวัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ได้ใช้เร็วขึ้น จะสามารถทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนเงื่อนไขแต่อย่างใด เราต้องลุ้นมติ ครม.อีกครั้ง

"ถ้าถามว่าลดค่าครองชีพได้หรือไม่ ก็สามารถลดได้ แต่ในส่วนของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็เพิ่งมีการแจกเงินหมื่นไปเมื่อปีที่แล้ว จะแจกอีกแล้วหรือ ถ้าถามว่าช่วยเอสเอ็มอีได้หรือไม่ โครงการคนละครึ่งสามารถช่วยได้ แต่แจกเงินสวัสดิการฯ ไม่ได้ช่วยใคร เพราะต้องไปซื้อของตามร้านธงฟ้าเหมือนเดิม แต่หากถามว่าทั้ง 2 โครงการสามารถซื้อเสียงล่วงหน้าได้หรือไม่ ก็ทำได้ทั้งคู่ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอนุมัติใส่เงินในบัตรสวัสดิการอีกเพราะทั้งไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ เอสเอ็มอีก็ไม่ได้ช่วย"

รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุที่กังวลเกี่ยวกับงบฯ ปี 68 นั้น เพราะผลจัดเก็บ 11 เดือนในปี 68 รายได้รัฐตกเป้า 34,000 ล้านบาท ถึงแม้รัฐบาลนี้จะอยู่เพียงแค่ 4 เดือน แต่ต้องทำหน้าที่ตัดสินใจเรื่องสำคัญในปลายปีนี้ คือเป็นผู้กำหนดกรอบประมาณปี 70 และมอบนโยบายงบประมาณ และปี 69 หนี้สาธารณะจะสูงถึง 69% ซึ่งจะทำให้สามารถกู้เงินเพิ่มได้แค่ 2.1 แสนล้านบาท ไม่ทราบว่าใครจะต้องเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังแห่งรัฐ ที่จะต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะ จากเดิมอยู่ที่ 70% และเพื่อรักษาภาพลักษณ์การคลังอาจจะต้องเป็นผู้นำเสนอการจัดเก็บรายได้ใหม่ ๆ ให้กับประเทศด้วย เพราะบริษัทจัดลำดับเรตติ้งจับตาดูเราอยู่

"จึงขอถามว่าหากท่านทำแผนจัดเก็บรายได้ การปฏิรูปภาษีหรือแผนการปฏิรูปการคลัง จะกลายเป็นแผนที่ใช้บังคับกับรัฐบาลหน้า ถ้าฝ่ายการเมืองยังเร่งรีดเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อคะแนนนิยม และรัฐมนตรีคนนอกที่เป็นเทคโนแครตเข้าไปนั่งนิ่ง ๆ ยอมให้ทำอะไรก็ได้ จะมีประโยชน์อะไรที่เราจะมีรัฐมนตรีคนนอกโปรไฟล์ดี ๆ มานั่งเป็น รมว.คลัง แถม รมช.คลัง ก็ยังพูดเอาหล่อจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เก็บภาษีนำเข้าทองคำ เรามีบทเรียนจาก รมว.คลังคนที่แล้ว ที่ระบุว่าจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 15 เพิ่ม จนถูกกระแสตีกลับจนต้องพับโครงการ 4 เดือนนี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ไม่มีใครว่า แต่อย่าสร้างความเสียหายที่เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขและไม่สามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับมาได้อีกในอนาคต"

อ่านข่าว : "อนุทิน" จ่อใช้สภาประชุม ครม.นัดพิเศษ หลังแถลงนโยบาย  

ไม่เพียงซักนโยบาย “รบ.หนู” 4 เดือน ฝ่ายค้าน-สว.พันธุ์ใหม่ยังกระทุ้งเรื่อง รมต. 

"พัฒนา" ปัดตอบ KPI ฟื้น "ฟอกไตฟรี" ใน 2 เดือน หากทำไม่ได้ถูกยึดเก้าอี้