เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2568 เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์และการรวมชาติของสภาแห่งชาติเกาหลีใต้ ร่วมกับ ตำรวจกัมพูชา บุกตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งชานกรุงพนมเปญ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ โดยสามารถควบคุมตัวชาวเกาหลีใต้ได้หลายสิบคน เจ้าหน้าที่กัมพูชาเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่าชาวเกาหลีใต้เหล่านี้ทำงานด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับหรือทำร้ายร่างกาย และทั้งหมดถูกส่งตัวกลับประเทศแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านสื่อ Khmer Times รายงานว่า ผบ.ตร.กัมพูชา ได้ประชุมหารือกับคณะผู้แทนจากเกาหลีใต้ เพื่อวางแนวทางความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยจะเน้นแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองและปฏิบัติการร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา กัมพูชาบุกตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยแล้ว 92 แห่งใน 18 จังหวัด จับกุมผู้เกี่ยวข้องได้กว่า 3,455 คน จาก 20 สัญชาติ ส่วนใหญ่เป็นเหยื่อที่ถูกส่งกลับประเทศ ขณะที่มีผู้ต้องสงสัย 75 คนถูกดำเนินคดีในศาลกัมพูชา
ทางด้าน ปธน.อี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ แถลงผ่านสำนักข่าว Yonhap ว่ารัฐบาลจะระดมทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงยุติธรรม การต่างประเทศ และหน่วยข่าวกรอง เพื่อจัดตั้ง "องค์กรบูรณาการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยมุ่งเป้าไปที่การหลอกลวงออนไลน์ การค้ายาเสพติด และการพนันผิดกฎหมาย พร้อมระบุว่า อาชญากรรมข้ามชาติกำลังทำลายชีวิตผู้คน และหากปล่อยไว้ ต้นทุนทางสังคมจะสูงขึ้นอย่างมหาศาล พร้อมย้ำว่าเกาหลีใต้จะเดินหน้าอย่างเด็ดขาดในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อยุติปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ พรรค PPP ได้ออกมาวิจารณ์กระทรวงการต่างประเทศว่า "ไร้ความรับผิดชอบ" ต่อกรณีนักศึกษาเกาหลีเสียชีวิตปริศนาในกัมพูชา โดยชี้ว่ามีข้อมูลขัดแย้งระหว่างรายงานจากสถานทูตกับผลชันสูตรเบื้องต้นที่ระบุถึง "ร่องรอยการทรมาน" ก่อนเสียชีวิต พร้อมตำหนิรัฐบาลที่ยังไม่แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำกัมพูชาคนใหม่มานานกว่า 4 เดือน
เมียนมาทลายศูนย์สแกมเมอร์ใหญ่ KK Park ใกล้ชายแดนไทย
อีกด้านหนึ่งที่ชายแดนไทย–เมียนมา สถานการณ์ที่เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน หลังจากกองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการบุกทลาย ศูนย์สแกมเมอร์ KK Park ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานใหญ่ของขบวนการหลอกลวงออนไลน์
AFP เผยว่าประชาชนจำนวนมากพร้อมสัมภาระหลบหนีออกจากพื้นที่ และบางส่วนข้ามมายังฝั่งไทยหลังข่าวการบุกทลายแพร่กระจาย ขณะที่ รายงานจาก The Irrawaddy ระบุว่า มีผู้คนหลายพันคนอพยพออกจากศูนย์ดังกล่าว โดยกองทัพเมียนมาเผยว่าสามารถตรวจยึดอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม Starlink กว่า 30 เครื่อง พร้อมคนราว 2,200 คน ในพื้นที่อาคารกว่า 200 หลัง แต่ยังไม่พบหลักฐานอาชญากรรมที่ชัดเจน
สื่ออินโดนีเซียรายงานเพิ่มเติมว่า มีชาวต่างชาติกว่า 300 คนจากหลายประเทศ รวมถึงชาวอินโดนีเซียราว 75 คนหลบหนีออกมาจากศูนย์ดังกล่าว ขณะที่สถานทูตอินโดนีเซียประจำเมียนมาเผยว่ายังมีพลเมืองของตนบางส่วนติดค้างอยู่ภายใน
อ่านข่าวอื่น :
พิษณุโลกน้ำท่วม 3 เดือน ชาวบ้านเรียกร้องยกเลิก "บางระกำโมเดล"
โฆษกรัฐบาลยัน ในที่ประชุม JBC ไม่มีการคุยเรื่องมาตราส่วนแผนที่