“จากใจคนลาว ถึงแม้ไม่ใช่คนไทย ถึงแม้ไม่ใช่คนไทย ก็รักพระองค์ด้วยใจ ซึ้งน้ำพระทัยในพระเมตตา วันนี้พระองค์มาสิ้น จากดินสะเทือนถึงฟ้า คนลาว คนไทย ถ้วนหล้า ต่างก็เศร้าโศกกำสรวล”
เนื้อเพลง จากใจคนลาว ขับร้องโดย ธิดาดาว ศรีวิไล นักร้องหมอลำเด็กวัย 11 ขวบ จากบ้านโพนยานาง เมืองอุทุมพอน แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว ที่น้อมถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ร่วมกับคนไทย
ในยามนี้ หากส่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มศิลปินในโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น TIKTOK หรือเพจเฟซบุ๊ก ฟีดที่ปรากฏขึ้น จะเห็นคลิปคนหลากหลายวัย โดยเฉพาะกลุ่มหนุ่มสาว เยาวชน ซึ่งเป็นศิลปินหน้าใหม่แขนงต่างๆ ทั้งคณะ หมอลำ ลิเก นักร้อง หลายคนประพันธ์บทเพลง บทกลอน เพื่อนำมาขับร้องเป็นเสียงเพลง และกลอนลิเก ถวายความอาลัย ก่อนจะเปิดการแสดงด้านหน้าเวที
ไล่เลียงมาตั้งแต่ คณะหมอลำระเบียบวาทศิลป์ ซึ่งมีคิวงานแสดงติดต่อกันเกือบทุกวัน แม้จะมีการยกเลิกการแสดงหลายงาน และบางงานได้มีการเลื่อนงานแสดงออกไป แต่สำหรับงานที่ยังแสดงตามกำหนดเดิม คณะหมอลำได้มีการปรับเปลี่ยนการแสดงหน้าเวที แม้นักแสดงจะยังแต่งกายสวยงามเหมือนเดิม แต่ทางคณะ ฯ ขอให้แดนเซอร์ และสมาชิกที่ร่วมแสดงทุกคนติดโบว์สีดำ หรือคาดสายสะพายสีดำ เพื่อแสดงความไว้อาลัย
ก่อนเริ่มทำการแสดงทางคณะฯ จะขึ้นรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระพันปีหลวง และให้สมาชิกทุกคนออกมายืนอยู่ด้านหน้าเวที มีการใช้แคนเป่าเพลงสรรเสริญพระบารมี ดังไปทั่วบริเวณ พร้อมขอให้แฟนคลับ ผู้เข้าชมและนักแสดง ยืนสงบนิ่งเพื่อน้อมจิตส่ง
เช่นเดียวกับเวทีหมอลำคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง จะนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระพันปีหลวงฉายบนจอเอลอีดีขนาดใหญ่ มีการใช้เสียงแคนเครื่องดนตรีอีสานเป่าเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมขึ้นข้อความ “สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้” ข้าพระพุทธเจ้า ทีมงานสาวน้อยเพชรบ้านแพง และให้ “อ๊อฟสุรพล หมอลำไอดอล” หมอลำวัยรุ่น ขับเสภาเป็นภาษาไทย และภาษาอีสาน
มีรายงานจากแฟนคลับระบุว่า การขับเสภาครั้งนี้ได้สร้างความรู้สึกซาบซึ้งอย่างลึกซึ้งให้กับผู้ชมที่อยู่หน้าเวทีในค่ำคืนนั้น ทำให้หลายคนถึงกับ "น้ำตาคลอ" ด้วยความตื้นตันในบทเพลงอาลัย จนเหล่าFC แห่ชื่นชมในความสามารถและสปิริตของศิลปินกันอย่างล้นหลาม ในโซเชียลมีเดีย เช่น “ มีอาชีพการงานจากวัฒนธรรมแผ่นดิน ต้องกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน แบบนี้แหละถึงเรียกว่า มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายอบรมสั่งสอน”
ไม่ต่างจากคณะหมอลำใจเกินร้อย ซึ่งเปิดการแสดงด้วยการยืนสงบนิ่ง และมีการแสดงชุดพิเศษ คำกล่าวถวายความอาลัย โดยขอให้ศิลปินนักแสดงเน้นชุดสีขาว-ดำ หรือคาดด้วยสายสะพายสีดำตลอดการแสดง และคณะหมอลำอีสานนครศิลป์ ที่จัดเต็มมก่อนการแสดงทั้ง แสง สี เสียง รวมทั้งคณะหมอลำอื่น ๆ ล้วนปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน
ขณะที่คณะลิเกชื่อดัง หลาย ๆ คณะ ไม่ว่าจะเป็น คณะศรราม น้ำเพชร ซึ่งมีคิวงานแสดงล่วงหน้ายาวถึง 3 ปี หากงานใดเจ้าภาพไม่ได้มีการยกเลิก ทุกครั้งที่มีการแสดงหน้าเวทีก็จะมีการนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระพันปีหลวง เพื่อถวายความอาลัยและจัดการแสดงอย่างสมพระเกียรติ เปลี่ยนการแต่งตัวสวมชุดใส่เน้นสีขาว ดำ ขลิบสีทอง
โดย “แบงค์ ศรราม” พระเอกและหัวหน้าคณะฯ จะขับร้องกลอนลิเก ความว่า “...ท่านทำเพื่อเราเหล่าชาวประชา เหนื่อยนักหนักหนาท่านั้น สำนึกในมหากรุณาธิคุณ ได้เกิดใต้บุญร่มใบ น้อมเสด็จสู่สวรรคาลัย ธ อยู่ในใจลูกหลาน ความดีประดับพระประทับสถิต อยู่ไปชั่วนิจนิรันดร์ ”
ส่วนลิเกคณะ กุ้ง สุทธิราช วิรดา วงศ์เทวัญ ขึ้นเพจเฟซบุ๊กแจ้งประกาศยกเลิกงานลิเกและงานร้องเพลง
ส่วนลิเกคณะเล็ก “ลูกกบ เสียงหวาน” ได้ปรับเปลี่ยนการแสดงโดยระบุว่า หากผู้จัดงานท่านใด อยากหาลิเกแสดงเทิดพระเกียรติพระพันปีหลวง ช่วงระหว่างราชพระราชพิธี ทางคณะพร้อมรับงานแสดงให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเฉพาะนักแสดง
ไม่รวมค่าเวที เครื่องเสียงและปี่พาทย์ โดยทางคณะจะนำเสนอเนื้อหาที่เหมาะสม โดยทางคณะจะไม่รับเงินจ้าง เพียงขอแค่มีพื้นที่ให้นักแสดงได้ทำงาน หวังเพียงรางวัลบ้างพอได้ค่าข้าว ค่าน้ำเพื่อประทังปากท้องให้ศิลปินในคณะ
ไม่ต่างจากวงกลองยาวอีสานประยุกต์ คณะสังวาทสายป่า จ.ร้อยเอ็ด ที่มีการปรับเปลี่ยนโทนสีแต่งกาย หรือการแสดงของรถแห่เถิดเทิงแบนด์ลพบุรี และเหล่าแตรวง คณะดนตรีและศิลปินท้องถิ่นได้ปรับการแสดงด้านหน้าเวทีก่อนเเริ่มแสดงสด ขณะที่ชาวบ้านและแฟนคลับที่ไปรับชมก็สามารถทำกิจกรรมร่วมสนุกกับศิลปินได้ตามปกติ
ทั้งหมด เป็นการแสดงในงานต่าง ๆ ในท้องถิ่นชนบท ต่างได้ปรับตัวและประยุกต์การแสดงให้เข้ากับสถานการณ์และบรรยากาศถวายความไว้อาลัยในช่วงเวลานี้
อ่านข่าว











