แมตช์สนามแตกจบไปแล้ว ทีมบอลนักเรียนขาสั้น “โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท”ประสบความสำเร็จ “คว้าแชมป์เปี้ยน คัพ 2025 ฟุตบอล 7 HD ไปครอง “ขนแชมป์” กลับจ.ชัยนาท สมกับความเหน็ดเหนื่อยของโค้ชและนักกีฬาที่ทุ่มกายเทใจฝึกซ้อม ส่วนทีมโรงเรียนหมอนทองวิทยา แม้จะพ่ายด้วยสกอร์ 2-1 ได้รองแชมป์พร้อม “ความเอ็นดู” จากคอแฟนบอลทั่วประเทศ “ขนฝัน” ไปสานความหวังต่อ ถือเป็นความยิ่งใหญ่ของสองทีมบอลจากภูธร “เมืองนกใหญ่”ชัยนาท และ “เมืองแปดริ้ว” ฉะเชิงเทรา
เกมในสนามจบลงแล้ว แต่ความฝันเยาวชนของชาติ ยังไม่จบ นักฟุตบอลของทั้งสองทีมจะต้องไล่ล่าความฝันของตัวเองต่อไปตามวัยที่ต้องเติบโตขึ้น และหน้าที่ของผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงไหน กีฬา การศึกษา การเมือง หรือแม้แต่กองเชียร์ต่างต้องให้กำลังใจและสนับสนุนให้เด็ก ๆ ก้าวต่อไปเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการลูกหนังเข้าสู่นักฟุตบอลอาชีพและทีมชาติไทย
วันพรุ่งนี้ ( 11 พ.ย. 2568 ) ชาวจังหวัดชัยนาทจะจัดงานฉลองแชมป์ให้ ทีมนกแข้งทอง โรงเรียนอบจ.ชัยนาท โดยจะมีขบวนแห่รอบเมืองจากอบจ.ชัยนาทไปสิ้นสุดที่เขื่อนเรียนหินหน้าศาลากลางจ.ชัยนาท
ส่วนทีมโรงเรียนหมอนทองวิทยา เมื่อค่ำวันที่ (10 พ.ย.)ที่ผ่านมาได้มีการนำทีมบอลขาสั้นไปเจอแฟนบอลที่คนแปดริ้ว ที่งานประจำปีนมัสการหลวงพ่อพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา ที่เวทีกลางท่ามกลางฝูงชนที่แห่งมาให้กำลังใจแบบประชิดนักเตะทีมฟุตบอลหมอนทองวิทยาแน่นขนัด ทำเอารถสองแถวขนฝันแทบขยับตัวออกจากพื้นที่ไม่ได้
“ ผมสัญญาครับ ปีหน้าจะเอาแชมป์มาให้ได้” เต วรากร ช่างเขียนดี บอกกับแฟนคลับเมื่อคืนนี้
สำหรับทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยาไม่ได้มีแค่ทีมรุ่นใหญ่รองแชมป์บอล 7 สี ฟุตบอล 7 คน แต่ยังมีรุ่นน้องอีกสามรุ่นที่เดินตามเส้นทางเดียวกัน ใน TDP Youth Football Tournament 2025 ฐานะตัวแทนจ.ฉะเชิงเทรา
หลังผลการแข่งขันรอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 27-30 ต.ค. 2568 ผ่านพ้น พบว่าทั้ง 3 รุ่น คือ U 13, U 15 และ U 17 ได้ผ่านเข้าสู่รอบคลัสเตอร์ทุกทีม ภายใต้โครงการ Thai Domestic Power หรือ โครงการส่งเสริมกีฬาที่มีศักยภาพอย่างเต็มระบบครบวงจร ชนิดกีฬาฟุตบอล สนับสนุนโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แสดงให้เห็นระบบการพัฒนาทีมฟุตบอลนักเรียน โดยมีอาจารย์สกล ครูผู้ทำหน้าที่โค้ชและสารถี อยู่หนึ่งในนั้นที่มองเห็นศักยภาพและอนาคตของเด็ก ๆ
แมชต์สนามแตก แม้ “หมอนทองวิทยา” เป็นรองแชมป์ แต่กลายเป็นเกมที่พลิกชีวิตของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เงินอัดฉีดที่ถาโถมเข้ามาเท่านั้น แต่สปอ์ตไลต์ทุกดวงจะจับจ้องไปที่เด็ก ๆและโรงเรียนแห่งนี้ ว่ารักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้หรือไม่ และยังเป็นคนที่ใครอยากจะเชียร์ให้ถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ ซึ่งไม่เฉพาะโรงเรียนแห่งนี้แต่ยังหมายรวมถึงการสนับสนุนโค้ชและทีมกีฬาโรงเรียนอื่น ๆ ด้วย
“เรามีไม่เท่าเขา หัวใจเราเท่ากัน” คำกล่าวของ อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ ครูและโค้ช สารถี ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนความฝันและความหวังของนักเรียนทีมโรงเรียนหมอนทองวิทยา
ศาสตราจารย์ กนก วงษ์ตระหง่าน โพสต์เพจบุ๊ก ตั้งคำถามว่า สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ควรเรียนรู้อะไรจากครูสกล เกลี้ยงประเสริฐ กรณีปรากฏการณ์ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา(8 พ.ย. 2568)
ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ต่อสู้บนความขาดแคลน แต่ใจเกินร้อย ไม่ยอมแพ้ จากทีมฟุตบอลที่ไม่มีใครมองเห็นสู่ทีมที่คนทั้งประเทศเอาใจช่วย ถึงแม้จะแพ้ แต่ชนะใจและได้ใจคนไทยทั้งประเทศ ที่เกิดปรากฎการแฮชแท็ก(#)โรงเรียนหมอนทอง
ครูสกล เกลี้ยงประเสริฐ คือ คนที่ทุ่มเททั้งกายและใจด้วยความรู้ความสามารถบนความขาดแคลนมากมายของทีมครูสกลอยู่กับนักเรียน ฝึกฝนกับนักเรียน สู้กับนักเรียน และขับรถสองแถวพาทีมนักเรียนไปแข่งขัน ความไม่พร้อมและปัญหาอุปสรรค ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของครูสกลได้
สุดท้ายใจของครูสกลจึงชนะใจนักเรียนและหล่อหลอมให้เป็นทีมฟุตบอลที่สามารถชนะทีมจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงหลายโรงเรียนจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้
แบบอย่างที่ครูสกล เกลี้ยงประเสริฐ (แปลว่า ประเสริฐอย่างหมดจด) แสดงผ่านการปฏิบัติหน้าที่ของ”ครู“ คือ
1) การเป็นผู้นำที่สามารถรวมพลังและใจของนักเรียนให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้ให้ชนะไม่ว่าจะมีข้อจำกัดหรือปัญหาอุปสรรคอะไร
2) ความขาดแคลนไม่ใช่ข้ออ้างที่ไม่ต้องทำ ไม่สามารถหยุดความฝันของทีมที่มุ่งมั่นได้
3) การทุ่มเทสุดกำลังด้วยความรัก เสียสละ อดทน คือพลังที่ขับเคลื่อนทีมให้ไปถึงเป้าของความฝันและเป้าหมายแห่งชัยชนะได้
4) พลังศรัทธาและความกล้า คือ เชื้อเพลิงแห่งความเชื่อมั่นที่ไม่มีอะไรขวางกั้นจากความสำเร็จ
และใจของครูที่มอบให้นักเรียน ทำให้นักเรียนมอบใจให้ครูกลับคืน ใจทั้งสองที่รวมกันนี้จึงกลายเป็นพลังของการเรียนรู้สู่ความสำเร็จที่ทรงพลัง
แบบอย่างทั้ง 5 ประการที่ครูสกลและนักเรียนโรงเรียนหมอนทองวิทยาแสดงให้ปรากฏนี้ เป็นเรื่องที่”สพฐ.“รวมถึงผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการควรจะได้เรียนรู้และนำไปถอดบทเรียนให้เป็นนโยบาย, มาตรการ, และวิธีการยกระดับคุณภาพการศึกษา(คุณภาพนักเรียน)ของประเทศได้อย่างไร
และที่สำคัญคือกระทรวงจะมีวิธีการและแรงจูงใจอย่างไรให้ครูที่โรงเรียนปฏิบัติหน้าที่ของครูให้ได้ผลสำเร็จเช่นที่ครูสกลได้ปฏิบัติให้ดูแล้ว จนเป็นที่ชนะใจของคนไทยจำนวนมาก
การที่ครูในโรงเรียนจะปฏิบัติ 5 ข้อข้างต้นได้นั้น ผู้บริหารสพฐ.ต้องตอบคำถามสำคัญ 2 ข้อ คือ
1) อะไรคือปัจจัยที่ปิดกั้นประเด็นที่ครูต้องมีทั้ง 5 ข้อนี้ ไม่ให้เกิดขึ้นในชั้นเรียน, ในโรงเรียน, และในเขตพื้นที่การศึกษา
2) สพฐ.จะขจัด, ทำลาย, และจัดการกับปัจจัยที่ปิดกั้นประเด็นทั้ง 5 นั้นอย่างไร เพื่อเปิดทางให้ครูได้ปฏิบัติหน้าที่ของครูได้สำเร็จ
ครูสกล และนักเรียนโรงเรียนหมอนทองวิทยาได้ทุ่มเทสร้าง”แบบอย่าง“ของความสำเร็จให้เห็นแล้ว สพฐ.อย่าปล่อยผ่านไปให้เสียของอีกเลย
ครูแบบครูสกล เกลี้ยงประเสริฐ ยังมีอีกจำนวนมากตามโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ สพฐ.หาให้พบและเปิดทางให้ครูเหล่า นั้นทำหน้าที่ของเขา(ถึงแม้จะมีความขาดแคลนบ้างก็ตาม) อย่าไปรบกวนหรือทำให้ครูเหล่านั้นเสียสมาธิ เพียงเท่านี้คุณภาพการศึกษาของประเทศก็จะดีขึ้นแล้ว
อ่านข่าว
คู่ชิงเดือด “หมอนทองวิทยาVS อบจ.ชัยนาท” ล่าฝันแชมป์บอลนักเรียน
สองแถว “ขนฝัน” พาทีมบอลภูธร “หมอนทองวิทยา สู้ศึก อัสสัมชัญ”
แท็กที่เกี่ยวข้อง: