ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา นิด้า ให้สัมภาษณ์รายการมุมการเมือง วันที่ 21 พ.ย.2568 ประเด็น : ขาลงหรือกลการเมือง? “ทักษิณ-เพื่อไทย” ยุคดิ่งเหว
ผู้สื่อข่าวถามว่า วิบากกรรมของค่ายสีแดง (พรรคเพื่อไทย) ส่งผลต่อสนามเลือกตั้งขนาดไหน ดร.พิชายกล่าวว่า ส่งผลมาก จนทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่มีโอกาสเป็นพรรคลำดับสองอย่างชัดเจน สถานะของเพื่อไทยที่ดีที่สุดคือลำดับ 3 แต่ถ้าหนักกว่านั้น อาจจะที่ 4 คือ ต้องตามหลังพรรคกล้าธรรม
การขาดนายทักษิณ ชินวัตร ทั้งถูกให้อยู่ในเรือนจำและต้องเสียภาษี พิสูจน์ชัดเจนว่า อำนาจบารมีที่ทักษิณอ้างว่า สามารถดีลกับรัฐพันลึกได้นั้นมันไม่จริง เมื่อเป็นเช่นนั้น การใช้วาทกรรมอ้างปลุกเร้าเหมือนในช่วงตั้งรัฐบาลปี 2566 คงจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่มีนายทักษิณออกมาช่วยในการเลือกตั้ง แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยชูตระกูลชินวัตร เป็นนายกฯ จะแก้เกมได้หรือไม่
ดร.พิชายกล่าวว่า การชูตระกูลชินวัตรคนอื่น ไม่มีพลังพอจะปลุกเร้า หรือระดมให้คนเสื้อแดงหรือผู้สนับสนุนในอดีตเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม
เรากวาดตาดูคนชินวัตรที่เหลือ สายตรงเลยคือ พานทองแท้ และพินทองทา ถ้าเอาสองคนนี้มาก็ถือว่าเอาสายตรง แต่ดูสถานการณ์ตอนนี้ บุคคลทั้งสองคงยากจะลงมา ครอบครัวคงไม่ให้มาเสี่ยงกับการเมืองแบบนี้ ถ้าจะเอาคนอื่นที่เราเห็นตามสื่อทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผมคิดว่ายิ่งหนักเลย เพราะสไตล์เขาผูกกับกลุ่มทุนการเมืองมาตลอด วิสัยทัศน์ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้โดดเด่น อีกสองคนคือเขยและหลานก็เช่นเดียวกัน แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่การแสดงบทบาทการเมืองที่ออกมายังไม่ชัดเจน
เมื่อถามว่า สถานการณ์แบบนี้ เป็นเพราะอยู่ในช่วงขาลงจริง ๆ หรือแพ้ในกลเกมการเมือง ดร.พิชายกล่าวว่า สองส่วนประกอบกัน ที่เขาเพลี่ยงพล้ำมาก ต้องยืนยันข้อเท็จจริงว่า เกิดขึ้นหลังคลิปเสียงออกมา นี่ลดลงมาก เมื่อลดลงแล้วก็นำไปสู่การหลุดจากตำแหน่งนายกฯ
นอกจากนั้นสิ่งที่เขาเพลี่ยงพล้ำอีกก็คือ การวางเกมการเมืองในลักษณะไม่รอบคอบ เอาภูมิใจไทยออกจากการร่วมรัฐบาล ช่วงก่อนมีสถานการณ์หลุดจากตำแหน่งของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ถือเป็นการเปิดหน้าท้าทายกลุ่มรัฐพันลึกโดยตรง เพราะภูมิใจไทยถือเป็นตัวแทนของกลุ่มเหล่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า แปลกใจหรือไม่ที่มีคนมองว่า สองดาบที่นายทักษิณโดนตอนนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย แต่เป็นกลเกมการเมือง ดร.พิชายกล่าวว่า ตนคิดว่าเกี่ยวกันไม่น้อยทีเดียว ในสองเรื่องนี้ ตระกูลชินวัตรทำอะไรที่มันชวนให้สามารถเอาไปใช้เป็นเงื่อนไข ที่ทำให้พวกเขาเพลี่ยงพล้ำได้ จากพฤติกรรมที่เขาทำ ทำให้อีกฝ่ายหยิบไปใช้ในการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองได้
ถ้าเขาเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ทำแบบที่เคยทำ ก็อาจเกิดช่องว่างช่องโหว่น้อยลง แต่ที่เขาทำในอดีตมันก่อช่องว่างมาก เลยถูกปรปักษ์เอาไปใช้เป็นประโยชน์ได้มาก
เมื่อถามว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ คิดว่าจะพลิกความได้เปรียบกลับมาอยู่กับเพื่อไทยได้หรือไม่ ดร.พิชายกล่าวว่า ไม่ได้พลิกความได้เปรียบอะไรให้พรรคเพื่อไทย แต่เป็นการทำลายจังหวะของพรรคประชาชน ทันทีที่ใช้เกมนี้ ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญชะงัก ถูกปรามาศว่าไม่ประสบความสำเร็จใน MOA พรรคเพื่อไทยเอง ก็มีประเด็นไปใช้หาเสียงเพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทยยิ่งยุบสภาฯ เร็ว พรรคเพื่อไทยก็น่าจะมองว่า ลดความแข็งแกร่งในการขยายอำนาจของรัฐบาล หากปล่อยให้ถึงเดือนมกราคม เขาอาจกังวลว่า รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล แข็งแกร่งในการขยายเครือข่าย
แต่มันจะมีผลเชิงลบต่อเพื่อไทยด้วย อาจถูกครหาว่า เป็นพรรคที่ขวางการแก้รัฐธรรมนูญทั้งที่ตนเคยหาเสียงเอาไว้ พรรคเพื่อไทยจะโดนวิจารณ์ และกลายไปเป็นตัวการหลักที่ทำให้รัฐธรรมนูญไม่สามารถเกิดขึ้นมา
ทางเลือกที่ดี ถ้าอยากอภิปราย ผมคิดว่าไม่ควรรีบยื่นควรจะยื่นหลังรัฐธรรมนูญผ่านวาระสามเสียก่อน จะทำให้สังคมได้รัฐธรรมนูญมาโดยรวม และเมื่อกลไกมาแล้ว ทุกฝ่ายก็ได้ประโยชน์หมด และค่อยยื่นยุบสภาปลายปีก่อนปีใหม่ อันที่จริงหากรับธรรมนูญผ่านวาระสาม ผมคิดว่าอนุทินไม่อยู่แล้ว เพราะเขารู้ว่ามีโอกาสโดนซักฟอกมาก ดีไม่ดีเมื่อผ่านวาระสาม วันถัดจากนั้นก็ยุบสภาเลยก็ได้ เขาไม่ได้อยากยุบสภา แต่เขากลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเพื่อไทยไม่รอ ยื่นเลย นายกฯ จะยุบเลยหรือไม่ ดร.พิชายกล่าวว่า คิดว่า เขายุบเลย เขาคงไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยงของความไม่แน่นอน บางทียังไม่ทันยื่นก็อาจจะยุบ ถ้าได้กลิ่นก็ชิงจังหวะยุบสภาฯเลย
เรียบเรียง : อุรชัย ศรแก้ว ผู้สื่อข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : มง 3 ใกล้เข้ามา! เชียร์สุดใจ "วีนา ปวีนา" Miss Universe 2025 รอบตัดสิน
เปิดพฤติการณ์-สิทธิพิเศษ "เครื่องใช้ไฟฟ้า-ผู้หญิงเข้าเยี่ยม" นักโทษจีนเทา
ปธน.ไต้หวันกิน "ซูชิ" โชว์สนับสนุนญี่ปุ่นท้าทายจีนแบนอาหารทะเล











