ภาพถ่ายร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ บุคคลที่ถูกตั้งข้อสงสัยจากสังคมและฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาชน ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รวมทั้ง ภาพพูดคุยระหว่างนายนายเบน กับเอกนิติ นิติภัณฑ์ประภาส รัฐมนตรีคลัง
ได้รับความสนใจและสร้างความฮือฮาได้มากกว่า การนำแถลงพร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร เรื่องยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
ที่เกี่ยวโยง นายเฉิน จื้อ แห่งปรินซ์กรุ๊ป ที่สหรัฐฯ ยึดอายัดบิสคอยน์ มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ นายก๊ก อาน นักธุรกิจใหญ่ และเจ้าของตึกที่ถูกระบุเป็นศูนย์ปฏิบัติการแก๊งสแกมเมอร์หลายแห่ง นายยิม เลียก นักธุรกิจใหญ่ ประธานบีไอซีแบงก์ กัมพูชา และนายเบน ที่มีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทเสียอีก
ทั้งที่เป็นการแจกแจงผลงานในทางปฏิบัติชุดแรกๆ ที่ได้เห็นเป็นรูปธรรมของรัฐบาลนายอนุทิน ต่อการปราบปรามเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ หลังมีคำถามใหญ่มาตลอดว่า จะเริ่มกี่โมง
ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ได้มีบทบาท การร่วมพูดคุยหารือเพื่อขอความช่วยเหลือและร่วมมือปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ทั้งในเวทีผู้นำอาเซียนที่มาเลเซีย และเอเปคที่เกาหลีใต้ ได้พบทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ นายสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และนายอีแจยอง ผู้นำเกาหลีใต้
แม้ข้อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมจัดร่วมมือในระดับนานาชาติของไทย จะยังไม่เป็นผลในทางปฏิบัติ แต่การประกาศเดินหน้าเอาจริงของนายอนุทิน ระบุชัดหากเชื่อมโยงไปถึงใคร ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีการละเว้น แม้แต่ในวันนำทีมแถลงที่สอบสวนกลาง เมื่อ 4 ธ.ค.
ด้านหนึ่ง จึงถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นเดินหน้าปราบจริง ไม่ใช่แค่ตั้งท่า แต่ในอีกด้านหนึ่ง ไปเข้าทางพรรคประชาชน ฝ่ายค้าน ที่มีสส.ตัวตึงหลายคน เคยออกโรงเขย่ารัฐบาลเรื่องนี้
ล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ออกโรงจี้ให้รัฐบาลทำจริง และปลด “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากรองนายกฯและรมว.เกษตรฯ แม้ ร.อ.ธรรมนัส จะปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแก๊งดังกล่าวมาหลายครั้ง
ระหว่างนั้น เพจชื่อดัง CSI LA ได้ร่วมผสมโรง ด้วยการโพสต์ข้อความ จับตาให้ดี! คดีอายัด “หมื่นล้าน” Scammer จะเป็นของจริงหรือแค่ปาหี่ เพราะการอายัดทรัพย์ = แค่ล็อกทรัพย์ไว้ชั่วคราว ไม่ใช่การริบคืนให้เหยื่อ ถ้า เจ้าหน้าที่ไม่สืบเส้นทางเงินให้ครบ หรือแกล้งโง่ ผู้ต้องสงสัยมีสิทธิ์ “ปลดอายัด” และได้ทรัพย์คืน
ก่อนจะพีคสุด เมื่อมีการเผยแพร่ภาพร่วมเฟรมดังกล่าว บนออนไลน์ และกระจายอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีคนดังระดับ “บิ๊ก” อีกหลายคน ทั้งในวงการทหาร ตำรวจ ธุรกิจพลังงาน และ สว.คนดัง ร่วมอยู่ในเฟรม
ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อีกหนึ่งตัวตึงของพรรคค่ายสีส้ม และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ พรรคค่ายสีฟ้า ได้โพสต์ตั้งคำถามต่อนายอนุทิน และนายเอกนิติ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง
ลุกลามไปถึงนักวิชาการอิสระ อย่าง น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล ที่ตั้งคำถามต่อ หลังจากนายเอกนิติ ชี้แจงว่า เป็นภาพเมื่อครั้งไปเป็นวิทยากร หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงอยากรู้ว่าหลักสูตรดังกล่าว นายเบน ไปอยู่ในงานนั้น ในฐานะอะไร
แม้ต่อมา นายอนุทิน จะชี้แจงว่า เป็นภาพเก่าตั้งแต่ปี 2557 ที่ประเทศสิงคโปร์ และไม่ได้รู้จักคุ้นเคยหรือมีความสัมพันธ์เชิงคบหา ทั้งข้อสังเกตว่า มีภาพออกมาเผยแพร่ในช่วงที่ ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์เครือข่ายเบน สมิธ เป็นความตั้งใจ หวังผลทางการเมืองบางอย่างหรือไม่
แต่กระนั้น ในเชิงทางการเมือง ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีภาพร่วมเฟรมกับนายเบนดังกล่าว ถือเป็นผลลบต่อนายอนุทิน เพราะอาจถูกมองได้ว่า ผู้มีอำนาจบารมีหลากหลายอาชีพ รวมทั้งการเมือง ล้วนเชื่อมโยงถึงกัน แม้ว่า โดยข้อเท็จจริง อาจไม่มีอะไรเคลือบแฝงอยู่เลย ก็เป็นได้
เพราะในช่วงเวลาที่กำลังเตรียมนับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง ความเคลื่อนไหวหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ล้วนส่งผลในทางการเมืองทั้งสิ้น
ยังไม่นับ การถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการ “เอาคืน” ทางการเมือง จากพรรคการเมือง หรือคนจากขั้วตรงข้าม ที่รอคอยโอกาสอยู่
ภาพร่วมเฟรมแม้จะเป็นเพียงภาพเดียว หรือเพียง 2-3 ภาพ ที่ถูกปล่อยออกมาในจังหวะเวลานี้ ย่อมต้องมีเป้าหมายและจุดประสงค์อย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ใช่เรื่องปลายทางหรือสิ้นสุดแล้ว
แต่กลับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นต่างหาก
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ประกันภัย-แบงก์" เร่งช่วยลูกค้า สำรวจความเสียหายน้ำท่วมใต้
ศป.กฉ.เปิดคำจำกัดความ "การเสียชีวิต" พิจารณาเยียวยาเหตุน้ำท่วมใต้
แท็กที่เกี่ยวข้อง: