หลังความขัดแย้งระหว่าง บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด อ.เมือง จ.ชลบุรี กับสหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรี เรื่องโบนัส ค่าตอบแทนพิเศษ มาตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.2568 และมีการเจรจาเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา บริษัทไดกิ้นฯ ได้ประกาศปิดงานงดจ้าง มีผลตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2568 เป็นต้นไปนั้น
"ไดกิ้น" จ.ชลบุรี แจ้ง "ปิดงานงดจ้าง" หลังไม่สามารถตกลงกันได้ กรณี พนง.เรียกร้องเงินโบนัสเพิ่ม
คำว่า “ปิดงาน” อาจเป็นคำที่ไม่ได้ค่อยได้ยินบ่อยนัก ต่างกับคำว่า เลิกจ้าง หรือคำอื่น ๆ นั้น ทนายฝ้าย จาก “เพจคลินิกกฎหมายแรงงาน” ได้อธิบายให้ความรู้เรื่องนี้ว่า
การปิดงานของนายจ้าง ไม่ใช่การเลิกจ้าง แต่เป็นการใช้สิทธิเพื่อตอบโต้ลูกจ้างในกรณีที่มีข้อพิพาทแรงงานเกิดขึ้นและไม่สามารถตกลงกันได้ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด
การปิดงานของนายจ้าง
อ้างอิงมาตราตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ดังนี้
- มาตรา 21 และ 22 ซึ่งเป็นมาตราที่กำหนดขั้นตอนการดำเนินการข้อเรียกร้อง จนนำไปสู่การเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่เปิดให้มีการใช้สิทธิปิดงานได้
- มาตรา 21 กำหนดให้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลผูกพันคู่กรณี
- มาตรา 22 กำหนดขั้นตอนเมื่อข้อเรียกร้องไม่ได้รับการยอมรับ นำไปสู่การไกล่เกลี่ยของพนักงานประนอมข้อพิพาท (ถ้าไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ และไม่มีการตกลงตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน) จะถือว่าเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขให้ใช้สิทธิปิดงาน รึนัดหยุดงานได้
ซึ่งการปิดงานตามมาตรา 5 มีคำนิยามว่าคือการที่ นายจ้างไม่ยอมให้ลูกจ้างทำงานชั่วคราว เนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน
- มาตรา 34 วรรคสอง กำหนดว่าก่อนการปิดงานหรือการนัดหยุดงาน ให้ฝ่ายที่จะปิดงานหรือนัดหยุดงาน แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง
ผลของการปิดงาน
เมื่อนายจ้างดำเนินการปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมาย (ทำตามขั้นตอนตามมาตรา 13, 22, และ 34 วรรคสอง) ผลที่ตามมาคือออก
1.การจ้างแรงงานยังคงอยู่ การปิดงานเป็นเพียงการหยุดทำงานชั่วคราว ไม่ได้เป็นการเลิกจ้าง
2.นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง เนื่องจากสัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้เพราะการปิดงานของนายจ้าง (ซึ่งเป็นการใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย) นายจ้างจึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในช่วงเวลานั้น (อ้างอิงแนวคำพิพากษาศาลฎีกา)
3.แต่หากการปิดงานนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เช่น ปิดงานโดยไม่มีข้อพิพาทแรงงาน, ปิดงานในกิจการที่ห้ามปิด, หรือไม่ได้แจ้งล่วงหน้า) นายจ้างอาจต้องรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในช่วงที่ปิดงานนั้นได้ (เป็นการจ่ายค่าเสียหาย)
นอกจากนี้นายจ้างยังมีสิทธิจ้างบุคคลอื่นทำงานแทน ตามมาตรา 35 (3) นายจ้างมีสิทธิจัดให้บุคคลอื่นเข้าทำงานแทนที่ลูกจ้างซึ่งมิได้ทำงานเพราะการปิดงานหรือการนัดหยุดงานได้ โดยนายจ้างต้องยอมให้บุคคลเหล่านั้นเข้าทำงาน และห้ามมิให้ลูกจ้างขัดขวาง
สรุป
การปิดงานจะยุติลงเมื่อข้อพิพาทแรงงานได้รับการระงับแล้ว ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ ทั้งสองฝ่ายตกลงตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ตามมาตรา 26
โดยคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ก.ร.ส.) ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ในกรณีที่เป็นกิจการที่สำคัญตามมาตรา 23 (เช่น กิจการรถไฟ, โรงพยาบาล, การประปา) หรือกิจการอื่นๆ ตามมาตรา 25 และมาตรา 36 และจบที่นายจ้างประกาศ ยกเลิกการปิดงาน สรุป ปิดงานไม่ใช่เลิกจ้าง
อ่านข่าว : ปภ.รายงานยังมีน้ำท่วมภาคใต้ 7 จังหวัด - เร่งระบายน้ำท่วมขัง
"ภูกระดึง คึกคักต้อนรับนักท่องเที่ยวทะลุ 2,500 คน สัมผัสอากาศหนาว 13 องศาฯ











