วันนี้ (5 ธ.ค.2568) CNN รายงาน แฟนฟุตบอลทั่วโลกจะได้ลุ้นกันตัวโก่ง ไม่ใช่แค่พิธีจับสลากฟีฟาเวิลด์คัพ 2026 ที่จะกำหนดโชคชะตา 48 ทีมสุดเข้มข้นในทัวร์นาเมนต์ประวัติศาสตร์ แต่ยังมีรางวัลใหม่เอี่ยมที่ FIFA เปิดตัวอย่างอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน พ.ย. "FIFA Peace Prize รางวัลสันติภาพฟุตบอล"
โดย จิอานนี อินฟานติโน ประธาน FIFA ประกาศว่าจะมอบให้บุคคลที่ "ลงมือกระทำสิ่งยิ่งใหญ่และน่าทึ่งเพื่อสันติภาพ และรวมใจแฟนบอลกว่า 5,000 ล้านคนทั่วโลก" พิธีมอบรางวัลจะจัดควบคู่กับการจับสลากที่ John F. Kennedy Center for the Performing Arts ใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ทรัมป์ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดา จะมาร่วมงานนี้ด้วยตัวเอง และมีกระแสข่าวว่าเขาอาจเป็นผู้รับรางวัลแห่งสันติภาพนี้เป็นคนแรก ในขณะที่ FIFA ปิดปากเงียบ แต่จากความสนิทสนมระหว่างอินฟานติโนกับทรัมป์ที่เห็นกันบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะที่พิธีสาบานตนของทรัมป์ หรือ การประชุมสันติภาพชาร์ม เอล-ชีคห์ ที่ผ่านมา ก็ทำให้หลายคนเชื่อว่านี่คือ "ถ้วยทอง" ที่ปลอบใจทรัมป์ที่พลาดโนเบลสันติภาพ
และก่อนประกาศรางวัลแค่วันเดียว อินฟานติโนได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว โดยบอกว่า "ทรัมป์สมควรได้รับรางวัลแห่งสันติภาพนี้อย่างแน่นอน" ยิ่งเป็นการตอกย้ำกระแสข่าวดังกล่าว ที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่รางวัลนี้เกิดขึ้นในวอชิงตัน ดี.ซี.
ตลาด Kalshi ตลาดการคาดเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ให้ข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้คนคาดเดากันว่า "ทรัมป์" มีโอกาสซิวรางวัลนี้สูงถึงร้อยละ 91
แต่ก็มีเสียงคัดค้านจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนอย่าง FairSquare และ Human Rights Watch (HRW) ที่ออกมาโจมตีว่า FIFA กำลัง "ยอมจำนน" ต่อทรัมป์ จนเสียความเป็นกลางทางการเมือง แม็กกี้ แมคกีแฮน ผู้อำนวยการ FairSquare บอก CNN Sports ว่านี่คือ "ตัวอย่างล่าสุดของการบริหารผิดพลาดร้ายแรงใน FIFA" และ "การผูกมัดกับโปรเจกต์ MAGA ของทรัมป์อาจได้ประโยชน์ระยะสั้น แต่ทำลายชื่อเสียงฟุตบอล"
ส่วนมิงกี เวอร์เดน ผู้อำนวยการ HRW บอกในงานแถลงข่าววันพุธที่ 3 ธ.ค.ว่า พวกเขาโทรหา FIFA เพื่อถามกระบวนการตัดสิน แต่กลับไม่ได้คำตอบ ซึ่งหมายความว่าอาจไม่มีกระบวนการในการคัดเลือก ไม่มีผู้สมัครอื่น หรือแม้กระทั่งไม่มีกรรมการตัดสินใด ๆ แม้แต่ CNN Sports เองก็ได้ลองพยายามติดต่อ FIFA แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับแต่อย่างใด
เมื่อเดือน พ.ย. FIFA แถลงตอบโต้ข้อกังวลจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า การสนิทสนมกับผู้นำเจ้าภาพคือหน้าที่ของประธาน โดยตั้งแต่ได้สิทธิ์เจ้าภาพร่วม 3 ประเทศ อินฟานติโน่ก็มี "ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น" ทั้งกับทรัมป์และผู้นำเม็กซิโก-แคนาดา แต่หลายคนก็ยังมองว่านี่คือ "ลูกเล่น" เพื่อเอาใจทรัมป์ เพราะหากทรัมป์ได้รางวัลจริง ก็จะจุดประกายคำถามใหญ่ให้ FIFA ว่ากำลังเล่นเกมการเมือง แทนฟุตบอลแล้วหรือไม่
อ่านข่าวอื่น :
นิติวิทยาศาสตร์ชี้ "ไซยาไนด์" ในกระเพาะ "นัทปง" ครอบครัวอายัดศพ-ตร.เร่งคลี่ปม
เปิดคำสั่งแต่งตั้ง-โยกย้าย “นายอำเภอ” ทั่วประเทศ 196 ตำแหน่ง