ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อินโดฯ ถอนใบอนุญาต 20 บริษัทรุกป่าทำน้ำท่วม-ดินถล่มคร่า 800 ชีวิต

ต่างประเทศ
20:06
36
อินโดฯ ถอนใบอนุญาต 20 บริษัทรุกป่าทำน้ำท่วม-ดินถล่มคร่า 800 ชีวิต
รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศถอนใบอนุญาตบริษัทกว่า 20 แห่งที่ถูกสงสัยทำลายสิ่งแวดล้อม จนก่อให้น้ำท่วมและดินถล่มรุนแรงบนเกาะสุมาตรา ส่งผลยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 836 คน สูญหาย 500 คน กระทบ 3.3 ล้านคน อุตุฯ เตือนฝนหนักรอบใหม่กำลังมาชาวบ้านหวั่นซ้ำรอย

วันนี้ (5 ธ.ค.2568) รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของบริษัทกว่า 20 แห่งที่ถูกสงสัยว่ามีส่วนทำลายสิ่งแวดล้อม จนนำไปสู่ภัยน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่บนเกาะสุมาตรา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 836 คน และมีผู้สูญหายอีกไม่ต่ำกว่า 500 คน ตามรายงานของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (BNPB) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) โดยภัยพิบัติครั้งนี้ยังกระทบประชาชนกว่า 3,300,000 คน และบังคับให้กว่า 800,000 คน ต้องอพยพจากบ้านเรือนที่พังยับเยิน

ภาพเศษไม้และขอนไม้ขนาดยักษ์ลอยเกลื่อนกลาดหลายจุดในจังหวัดนอร์ท สุมาตรา สะท้อนถึงความเสียหายหนักหน่วงจากอุทกภัยและดินถล่มที่ถาโถมเมื่อสัปดาห์ก่อน บ้านเรือนพังทลาย น้ำยังท่วมขังในหลายพื้นที่ และโครงสร้างพื้นฐานเสียหายยับเยิน สถานการณ์คล้ายกันยังเกิดขึ้นในจังหวัดอาเจะห์และเวสต์ สุมาตรา ซึ่งเป็น 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักสุดบนเกาะสุมาตรา

หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (BMKG) ออกคำเตือนว่า ฝนระดับปานกลางถึงหนักจะถล่มอีกครั้งจนถึงวันนี้ (5 ธ.ค.) ทำให้ชาวบ้านในศูนย์พักพิงชั่วคราวและพื้นที่เสี่ยงหวาดผวากับความเป็นไปได้ของน้ำท่วมซ้ำรอบใหม่

รัฐมนตรีกระทรวงป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซีย สารี เนนา เปิดเผยว่า การถอนใบอนุญาตดังกล่าวเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยบริษัทเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการตัดไม้ทำลายป่าและกิจกรรมที่รบกวนระบบนิเวศ ซึ่งทำให้ดินเสื่อมโทรมและน้ำท่วมรุนแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลจะเรียกตัวเจ้าของบริษัทอีก 12 แห่งที่ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่คร่าชีวิตนับร้อย

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ อาร์ลินโด โกเมส ประกาศเริ่มตรวจสอบและประเมินผลกระทบจากกิจกรรมเหมืองแร่ในพื้นที่ เพื่อยืนยันว่ามีส่วนทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงหรือไม่ โดยบางบริษัทเหมืองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบภัยออกแถลงการณ์ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ระบุว่าข้อมูลที่กล่าวอ้างยังไม่ชัดเจนและไม่ถูกต้อง

ภัยพิบัติครั้งนี้ซึ่งเกิดจากพายุไซโคลนเซนยาร์ที่ทำฝนตกหนัก ถือเป็นหนึ่งในหายนะรุนแรงที่สุดในอินโดนีเซียนับตั้งแต่แผ่นดินไหวสุลาเวสีปี 2561 โดยทางการเร่งซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ส่งความช่วยเหลือสู่พื้นที่ตัดขาด และอพยพประชาชนเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลจากชาวบ้านที่เคยรอดชีวิตแต่ยังหวั่นเกรงน้ำท่วมซ้ำ รัฐบาลย้ำว่าจะใช้มาตรการนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและป้องกันภัยในอนาคต เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมซ้ำรอย

อ่านข่าวอื่น :

ศาลฯ ตั้งผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตสังคม "นานา" เกิดประโยชน์ทุกฝ่าย

"ทรัมป์" ลุ้นรางวัลสันติภาพ FIFA ก่อนจับสลากคัดบอลโลก 2026