วันนี้ (15 ธ.ค.2568) การสู้รบต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 8 บริเวณชายแดน ด้าน อ.พนมดงรัก และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีทางทหาร โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ที่แม้ไทยจะผลักดันทหารกัมพูชาออกจากตัวปราสาท และเนิน 350 แต่ยังไม่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ได้ เนื่องจากกัมพูชา มีการยิงปืนใหญ่ จรวด BM-21 และใช้โดรนพลีชีพและโดรนทิ้งระเบิด ในพื้นที่ต่อเนื่อง
ผู้นำชุมชนบอกว่า กังวลสถานการณ์สู้รบที่ยกระดับความรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ที่กัมพูชายังระดมยิงจรวด BM-21 เข้ามาในพื้นที่กว่า 100 ลูก ส่วนใหญ่ตกในชุมชนติดหน้าแนวสู้รบแต่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบความเสียหายได้ หลังทหารกันพื้นที่ไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เสี่ยง
ตอนนี้ อ.พนมดงรัก ห้ามประชาชนเจ้าพื้นที่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะยังมีการปะทะหนัก ทำให้ชุด ชรบ.และผู้นำชุมชน ที่รักษาความปลอดภัย ในหมู่บ้านเริ่มขาดแคลน สิ่งของอุปโภคบริโภค รวมถึงยารักษาโรค เพราะการสู้รบที่ยืดเยื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ อส.และทหารจะตระเวนแจกสิ่งของจำเป็นให้กับชุด ชรบ.เป็นรอบๆ
ส่วนประชาชนที่จะนำสิ่งของมาบริจาค ต้องนำมาให้ตามจุดที่กำหนด และห้ามนำไปให้ ตามชุมชนเองเพราะเสี่ยงได้รับอันตราย เนื่องจากในพื้นที่ยังมีการปะทะ และกัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้ามาแบบไร้ทิศทาง
คืนแรกเคอร์ฟิวในพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ตราด
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมายังไม่มีรายงาน ว่ามีการปะทะกันในพื้นที่ โดยในช่วงเช้านี้ยังไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น อาจจะสืบเนื่องจากการเมื่อวานนี้ทหารนาวิกโยธิน ได้เข้าโจมตีและยึดพื้นที่บ้าน 3 หลังได้ และอาจจะควบคุมพื้นที่ได้แล้ว
ขณะที่บรรยากาศการประกาศเคอร์ฟิว เมื่อคืนนี้ในตัวอำเภอเมืองค่อนข้างเงียบเหงา ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทีมข่าวได้ออกสำรวจบรรยากาศในพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเย็น ก็สังเกตเห็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมือง ต่างก็เร่งรีบเดินทางเพื่อที่จะกลับที่พัก ก่อนถึงกำหนดเวลา 19.00 น. ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาเคอร์ฟิวที่ทางการประกาศเอาไว้
ช่วงหัวค่ำบนถนนสายหลักอย่างถนนสุขุมวิท ยังมีไฟส่องสว่างเปิดอยู่ หลังเวลา 19.00 น. เพื่อให้ประชาชนบางส่วนที่อาจจะตกค้างอยู่นอกเคหสถาน หรือมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับบ้าน ให้ได้สัญจรอย่างปลอดภัย เป็นการยืดหยุ่นระยะเวลาเนื่องจากเป็นการประกาศเคอร์ฟิวในวันแรก
แต่พอหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนสุขุมวิทบางพื้นที่ ดับลง คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
ขณะที่บ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวอำเภอเมืองชั้นใน ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แทบทุกหลังคาเรือนต่างก็ปิดไฟบริเวณนอกบ้าน หรือลดแสงไฟให้น้อยลง ก็เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือ หลังจากคืนก่อนหน้านี้พบว่ามีโดนจากฝ่ายตรงข้าม บินเข้ามาในพื้นที่
นายเกรียงไกร ปัญญาพงศธร นายอำเภอเมืองตราด ยอมรับมีความกังวลเรื่องขยายพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในตัวอำเภอเมืองชั้นใน เพราะมีการตรวจพบว่าโดรนบินเข้ามาในพื้นที่ไกล้ใกล้ตัวเมืองมากขึ้น จึงมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
การตั้งด่านก็เป็นอีกหนึ่งมาตรการ ที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความเข้มงวด เมื่อคืนนี้มีประชาชนบางส่วนสัญจรผ่านจุดตรวจ ที่ยังปรับตัวไม่ทัน อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน พร้อมประชาสัมพันธ์ให้รีบเดินทางกลับที่พักโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติ เดินอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยและแจ้งถึงสถานการณ์ปัจจุบันให้ทราบ และให้เดินกลับที่พักโดยเร็วที่สุด
แต่ถ้าหากจำเป็นประชาชนในพื้นที่สามารถแจ้งกลับผู้นำชุมชนหรือนายอำเภอแต่ละพื้นที่เพื่อขออนุญาตออกจากเคหสถานได้
สถานการณ์ตลอดทั้งคืนทีมเขายังไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นในพื้นที่ รวมถึงยังไม่มีการรายงานการปะทะเกิดขึ้น
ตร.โคราชได้รับเบาะแส "ทหารรับจ้าง" หวังโจมตี "กองบิน1"
ขณะที่ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.68) สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา แจ้งประชาชนให้ทราบถึงการข่าวและขอความร่วมมือหากพบเห็นชาวต่างชาติเข้าพักอาศัยโดยระบุว่า
"..เนื่องจากตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรายงานข่าว อาจจะมีทหารรับจ้างชาวรัสเซีย (กัมพูชาจ้าง) เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่โคราช เป้าหมายใช้โดรนโจมตีพื้นที่ยุทธศาสตร์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา (กองบิน1)
หากท่านพบชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยในรีสอร์ท/เกสท์เฮ้า/โรงแรม บ้านพักในพื้นที่ของท่าน โปรดแจ้ง สภ.พลกรัง โดยด่วน 044918600
อ่านข่าว :
ฉก.นย.ตราด ถูกโจมตี-ฝ่ายตรงข้ามแทรกซึมพยายามก่อวินาศกรรม
ทภ.2 คุมเข้มด่านช่องเม็ก งดส่งออกน้ำมัน-ยุทโธปกรณ์ มีผลเที่ยงคืนนี้
อ.กันทรลักษ์ ประกาศประชาชน 7 ตำบลพื้นที่เสี่ยงอพยพด่วน ฝ่าฝืนมีโทษ











