วันนี้ (15 ธ.ค.2568) อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ที่เดิมกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 ธ.ค.2568 จะเลื่อนไปจัดในวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค.2568 แทน
ผู้นำมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานจัดการประชุมและติดตามสถานการณ์ โดยกำลังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการปะทะกัน และตัดสินใจเลื่อนการประชุม เนื่องจากต้องการจัดการหารือในช่วงที่สถานการณ์สงบเรียบร้อย อันวาร์ ยืนยันว่า ยังทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เกิดการหารือกันระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อช่วยบรรเทาความตึงเครียดของสถานการณ์
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ระบุว่า การประชุมสมัยพิเศษดังกล่าวเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 22 ธ.ค. ตามคำขอของทางการไทย โดยโมฮาหมัด ฮาซาน รัฐมนตรีต่างประเทศ จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ซึ่งรายละเอียดอื่นๆ มาเลเซียจะแจ้งให้ทราบต่อไป ด้านนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกับสื่อต่างชาติระหว่างการแถลงข่าวว่า มาเลเซียเป็นฝ่ายเสนอจัดการประชุมนี้ในวันที่ 16 ธ.ค. และไทยพร้อมจะเข้าร่วม
กต.ประท้วงกัมพูชาโจมตีไทยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังประณามการโจมตีพลเรือนไทย และขอให้กัมพูชายุติการใช้กำลังต่อพลเรือนทันที โดยกรณีนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศมีหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายโจมตีไทยก่อนและโจมตีพื้นที่พลเรือนทำให้ทหารไทยและพลเรือนไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชาขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรม และกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
รวมถึงอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง ไทยจำเป็นต้องสงวนสิทธิปกป้องอธิปไตย และป้องกันตนเองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ โดยตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาเฉพาะเป้าหมายทางการทหารเท่านั้น ขณะที่อีกประเด็นหนึ่งที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศพูดถึงคือกัมพูชายังเผยแพร่ข่าวปลอมและข้อมูลเท็จอย่างเป็นกระบวนการ
กต.เตรียมประท้วงกัมพูชาขวางคนไทยกลับประเทศทางบก
ขณะเดียวกัน ไทยยังกังวลอย่างยิ่งที่กัมพูชาระงับการเดินทางผ่านจุดผ่านแดนทางบกของคนไทยในกัมพูชา หลังไทยอำนวยความสะดวกให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศทางบกก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมาตรการของกัมพูชาอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุว่า พลเรือนมีสิทธิเดินทางออกจากประเทศ และต้องไม่ถูกปฏิบัติราวกับเป็นคู่ขัดแย้งในสถานการณ์ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศอยู่ระหว่างการมีหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอีกฉบับหนึ่งเพื่อประท้วงเรื่องนี้ด้วย
ด้านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เผยแพร่เนื้อหาจากการแถลงข่าวโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ระบุว่า รัสเซียเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่กระบวนการเจรจาหยุดยิงโดยเร็ว และแก้ไขความขัดแย้งร่วมกันตามถ้อยแถลงที่ได้ลงนามไว้ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เช่นเดียวกับกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส ที่เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบโดยด่วนที่สุด พร้อมกลับเข้าสู่การเจรจาตามถ้อยแถลงดังกล่าว เพื่อมุ่งสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกันโดยสันติวิธี
อ่านข่าว : "ปตท.-บางจาก-SPRC" แถลงยืนยันไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปกัมพูชา
บ้านชำราก “ตราดปราบปรปักษ์” ทวงคืนบ้านสามหลัง “ให้มันจบที่รุ่นเรา”
ทร.แจงยังไม่ปิดกั้นอ่าวไทย - ประกาศงดทำประมงชั่วคราว 4 พื้นที่ จ.ตราด











