ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

บ้านชำราก “ตราดปราบปรปักษ์” ทวงคืนบ้านสามหลัง “ให้มันจบที่รุ่นเรา”

อาชญากรรม
16:53
77
บ้านชำราก “ตราดปราบปรปักษ์” ทวงคืนบ้านสามหลัง “ให้มันจบที่รุ่นเรา”

“ตราดปราบปรปักษ์” ทวงคืนพื้นที่อธิปไตย บริเวณบ้านสามหลัง บ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ภายใต้การนำของกองทัพเรือ และเหล่ากองกำลังผสม กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพอากาศ และกองทัพบก ประกาศศักดิ์ศรี “ทหารไทย” ปักธงชาติไทยบริเวณบ้านสามหลัง บ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด นำพื้นที่อธิปไตยไทยกลับคืนมา หลังถูกเขมรรุกล้ำกินแดนนานถึง 40 ปี

ในอดีตพื้นที่แห่งนี้ ทหารนาวิกโยธิน เคยยกพลขึ้นมารบที่เทือกเขาบรรทัด ภายใต้ชื่อ “ยุทธการบ้านชำราก” เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2528 หลังกองกำลังเวียดนามเข้าโจมตีกวาดล้างทหารเขมรแดง จนแตกถอยรุ่นเข้ามาในประเทศไทย และวางกำลังบางพื้นที่ลึกเข้ามาในเขตไทย ทำให้ พล.ร.ท.ประเสริฐ น้อยคำศิริ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ในขณะนั้น วางแผนตีโต้ผลักดันกำลังเวียดนามที่รุกล้ำเข้ามาให้ออกนอกเขตแดนไทย

ผลการปฏิบัติ ไทยสามารถผลักดันขับไล่ทหารเวียดนาม 3 กองพัน ที่รุกเข้ามายึดพื้นที่ออกไปได้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2568 และสามารถวางกำลังป้องกันมิให้ทหารต่างชาติรุกล้ำเขตแดนเข้ามาอีก การรบครั้งนั้น มีทหารเสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บจากการรบ 68 นาย ป่วยจากมาลาเรีย 584 นาย รวมระยะเวลาปฏิบัติการเกือบ 1 เดือน จึงผลักดันทหารเวียดนามออกจากพื้นที่ได้ทั้งหมด

“บ้านสามหลัง” ตำบลชำราก อยู่ในเขตประเทศไทย ตั้งอยู่ริมขอบสันเทือกเขาบรรทัดสูงประมาณ 300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลักษณะภูมิประเทศ 20 ปีที่แล้ว มีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ อยู่ติดกับฝั่งกัมพูชาเป็นพื้นที่ราบสูงที่ราบหน้าตัด เนื่องจากเป็นแนวเขตรอยต่อพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงถูกเขมรบุกรุกเข้ามายึดครอง โดยใช้วิธีเผาไล่ที่เพื่อปลูกพืชและยูคาลิปตัส สร้างบ้านเรือน และตั้งฐานทหาร

แม้ที่ผ่านมา ทางการไทยจะทำหนังสือประท้วงมาตลอด แต่เขมรก็ยังตีมึนไม่สนใจ ยังคงรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย สร้างฐานที่มั่นที่แข็งแรงทางทหาร เพื่อเข้ายึดจุดยุทธศาสตร์เพื่อตรึงกำลังตามแนวชายแดน มีการเสรมกำลังทหาร ขุดบังเกอร์ (Bunker) และ คูเลต (Coolet) ใต้ดินใต้บ้านสามหลัง เพื่อใช้เป็นที่หลบกำบัง ตั้งอาวุธตอบโต้การโจมตีจากฝ่ายไทย

การรบรอบแรกระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2568 ชายแดนด้านตราด-จันทบุรี กองทัพเรือได้เปิดปฎิบัติการใช้แผน “ตราดพิฆาตไพรี 01” (Trat Strike 1) เพื่อตอบโต้การรุกรานและผลักดันกำลังทหารกัมพูชาที่ลุกล้ำชายแดนไทยในพื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด โดยไทยสามารถควบคุมสถานการณ์และผลักดันทหารเขมรให้ถอยร่นกลับได้สำเร็จภายในเวลาอันสั้น และยังไม่ได้เปิดปฎิบัติการทวงพื้นที่คืนบริเวณบ้านสามหลัง

วันที่ 7 ธ.ค.2568 หลังเปิดตลอดแนวรบ 4 จังหวัดอีสานใต้สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานีและ ศรีษะเกษในเขตอีสานใต้ พื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 2 เริ่มปะทะช่วงแรก ๆ มีทหารเสียชีวิต สถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา กองทัพบก ประกาศการรบเขตแนวรบพระวิหาร เป็น “ยุทธการศตวรรษ” เพื่อเป็นเกียรติต่อ “จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต” เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ช่องอานม้า ทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

สถานการณ์การรบแนวพระวิหาร เดือดตามลำดับ ทหารไทยได้พยายามเข้าทวงคืนพื้นที่ทหารเขมรรุกล้ำเข้ามา เหตุปะทะชายแดนด้านนี้ ส่งผลให้มีทหารต้องพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยถึง 16 นาย จำนวนนี้รวม ถึงทหารชายแดนตะวันออก จ. สระแก้ว เป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพารวมอยู่ด้วย

ขณะเดียวกัน กองทัพเรือโดยกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ที่รับผิดชอบพื้นที่จ.จันทบุรีและตราด ได้เปิดยุทธการ “ตราดปราบปรปักษ์” สนธิกำลังรบในทุกมิติทั้ง “น้ำ-ฟ้า-ฝั่ง” ดูแลรักษาอธิปไตยพื้นแผ่นดินไทย เป้าหมายสำคัญคือ นำพื้นที่อธิปไตยบริเวณ “บ้านสามหลัง” บ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด กลับมาเป็นของไทย

วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ร.ต. ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ แถลงหลังกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก,นย.ตราด) เข้าควบคุมและยึดพื้นที่บริเวณบ้าน 3 หลัง ซึ่งถูกเขมรข้ามแดนรุกล้ำเข้ามาไว้ได้แล้ว และได้ปักธงชาติไทยในพื้นที่เพื่อยืนยันอธิปไตยของประเทศ

มีรายงานระบุว่า บริเวณบ้านสามหลัง" เป็นพื้นที่เขมรรุกล้ำเข้ามาอยู่ยาวนานถึง 40 ปี ซึ่งการยึดคืนพื้นดังกล่าวได้ ถือเป็นการยืนยันพื้นที่ของไทยตามหลักการกฎหมายระหว่างประเทศและการป้องกันตนเอง ซึ่งยุทธการนี้ถือเป็นการป้องกันตัวเองและภัยคุกคามความมั่นคง ไม่ใช่การรุกราน ทุกภายใต้การดำเนินการเป็นไปอย่างเคร่งครัดภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองที่ได้รับการยอมรับภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ในพื้นที่บ้านหนองรี โดยรอบ ยังคงมีการปะทะกันเป็นระยะๆ จากการพยายามตอบโต้ของฝ่ายตรงข้าม กำลังของหน่วยนาวิกโยธินที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักความจำเป็นและได้สัดส่วน เพื่อรักษาความมั่นคงของพื้นที่ และป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามารุกล้ำอธิป ไตยของประเทศไทยอีก

ขณะที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก ทหารนาวิกโยธินนายหนึ่ง โพสต์แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของแนวหน้าอยู่ประจำการในพื้นที่เมื่อปะหน้ากับทหารเขมร ความว่า
“ ... 11 เดือนที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ ร้อย. ทหารพราน 534 บ้านชำราก บนเทือกเขาบรรทัด ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งที่โดนทหารเขมรปิดล้อม ไม่ว่าเราจะตัดหญ้า ที่เเนวธงชาติเรา ขึงลวดหนามที่เเนวหน้าฐานของเรา จะเดินลาดตระเวน จะเปลี่ยนเสาธงชาติจากไม้ ให้เป็นเสาเหล็ก ก็โดนปิดล้อม”

สุดท้าย จะทำขนำเล็กๆ ใว้นั่งพักข้างๆธงชาติเรา ไม่วายโดนให้รื้อถอน หลังจากนี้ พี่น้องชาวไทย พี่น้องชาวตราดคงไม่มีค่า pm สูง เป็นอันดับ 2 ของ ประเทศเหมือนปีก่อนๆเพราะทหารเขมรเผาไล่ที่ บนเทือกเขาบรรทัด เเละล่าสัตว์บนเทือกเขาบรรทัดอีกแล้ว

และขอมอบสิ่งนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ พี่น้องชาวไทย พี่น้องชาวจังหวัดตราด .... ขอบคุณผู้บังคับบัญชา เเละอดีตผู้บังคับบัญชา ที่ห่วงใยติดตาม ให้ความรู้ให้ประสบการณ์ ในสนามรบ....เมื่อ 40ปีที่เเล้ว บรรพบุรุษทหารนาวิกโยธิน เคยขึ้นมารบที่เทือกเขาบรรทัด ภายใต้ชื่อยุทธการบ้านชำราก

เจ้าของเพจยัง เขียนอีกว่า 40 ปีผ่านมา ไม่มีใครคิดว่า เราต้องขึ้นมารบบนนี้อีก เเสดงให้เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมที่จะรุกรานเราตลอดเวลา ต่อไปนี้ รุ่นลูก รุ่นหลาน เราจะไม่มีอีกเเล้ว ให้มันจบในรุ่นเรา ตราดปราบปรปักษ์ ยุทธการสุดท้ายบนเทือกเขาเเห่งนี้ ต่อไปที่ตรงนี้ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ ใครไม่เคยได้มาสัมผัส จะได้รู้ถึงเมืองสามฤดู บรรยากาศ บนเนินเสาธงที่เหมือนอยู่บนเขาใหญ่

ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การสู้รบยังไม่จบสิ้น ยุทธการบ้านชำราก เมื่อครั้งปี 2528 สิ้นสุดไปนานแล้วแล้วก็จริง แต่การขยับรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่อธิปไทยของเขมร ที่ไทยเคยทำได้เพียงแค่ยื่นหนังสือประท้วง ได้เปลี่ยนแนวเป็นการทวงคืนจากฝีมือของทหารกล้าที่เข้าไปเสี่ยงภัย

อ่านข่าว

ปิดจบ “ตระกูลฮุน-เขมร” ภัยคุกคาม เปิดแนวรบ(ชายแดน) ลึกได้แค่ไหน