เปิดศึกชิงประสาทตาควายรอบ 2 ในเชิงสัญลักษณ์ ทหารไทยเข้าไปปักธงชาติไทยได้แล้วก็จริง แต่ในพื้นที่ไทย-กัมพูชา ยังมีคงปะทะกันหนักหน่วง เข้าวันที่ 10 แล้ว โดยฝ่ายไทยพยายามเข้ายึดเนิน 350 ซึ่งเป็น “เนินสูงข่ม” ที่เขมรเข้าไปก่อกำแพงและขุดอุโมงค์ลึก แม้จะหย่อนไข่ลงไปหลายครั้ง แต่ยังยืดเยื้อ จนทำให้ทหารไทยต้องพลีชีพเพื่อเอาคืนพื้นที่อธิปไตยกลับมาให้ได้
นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวไทยพีบีเอส สัมภาษณ์พิเศษ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2568
พ.อ.ริชฌา อธิบายให้เห็นความสำคัญของเนิน 350 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ปราสาทตาควายว่า เป็นภูมิประเทศสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นจุดสูงที่สามารถตรวจการณ์และควบคุมการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ผู้ที่ยึดครองพื้นที่ดังกล่าวจะได้เปรียบทั้งการใช้อาวุธเล็งตรง และการยิงสนับสนุนจากปืนใหญ่ผ่านระบบ “ผู้ตรวจการณ์หน้า” ซึ่งช่วยชี้เป้าและปรับการยิงจากระยะไกล
“ปราสาทตาควายเหมือนกับเชิงสัญลักษณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายพยายามที่จะช่วงชิง ยืนยันว่า ตรงนั้นเป็นแผ่นดินไทย ถามว่า ตรงนั้นมันสำคัญอย่างไร... สำคัญตรงที่ว่า มันมีความยาก ตั้งแต่คราวที่แล้วเราก็ต้องยอมรับว่าเราเอาคืนมาไม่ได้ แต่ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทหารมีความพยายามเป็นอย่างมาก”
ด้วยว่า กลยุทธ์เชิงพื้นที่ คือ 1. ตัวปราสาทตาควาย 2. บริเวณเนิน 350 ฝ่ายตรงข้ามใช้กลยุทธ์ ยิงสนับ สนุนระยะไกล หรือใช้กำลังทหารราบ หรือใช้วิธีกองโจร หรือเป็นการปฏิบัติการพิเศษปฏิบัติการตรงต่อเรา ในเริ่มแรกต้องปูความเข้าใจก่อน คือ การรบในทางยุทธของทหารมันจะมีฝ่ายรุก ฝ่ายตั้งรับ เอาให้รุกกับรับก่อน ในพื้นที่ที่ผมบอกว่าสำคัญ เนินสูงกับตาควาย ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการที่เราพยายามยึดพื้นที่คืน เราเป็นฝ่ายรุก กัมพูชาเป็นฝ่ายตั้งรับ
“การตั้งรับของกัมพูชาไม่ได้เพิ่งทำ เขาทำมาเป็นระยะเวลานาน โดยใช้โบราณสถานมาเป็นพื้นที่ตั้งรับด้วย ดัดแปลงเป็นที่มั่นแข็งแรง ทั้งกระสอบทราย โครงสร้างเทปูนเป็นป้อมปืน ทั้งบริเวณเนิน 350 รวมถึงการขุดคูเลตเป็นคูเชื่อมต่อที่ไม่โดนการยิง มีอย่างหนาแน่น ไม่ได้ทำมาแค่วันเดียว ทำมาเป็นหลายเดือน ร่วมกับสิ่งที่เราไม่อยากเจอที่สุดคือทุ่นระเบิด ยืนยันว่า น่าจะทั่วพื้นที่ อันนี้คือการตั้งรับ ที่แนวปะทะตาควายและเนิน 350 “ รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
และอธิบายต่อว่า นอกจากนี้กัมพูชา ยังมีการระดมอาวุธยิงสนับสนุนหลากหลายประเภท อาทิ ปืนใหญ่ จรวด BM21 รถถัง อาวุธต่อสู้รถถัง ปืนกล และปืนสไนเปอร์ ทำให้การรุกของฝ่ายไทยต้องเผชิญกับแรงต้านอย่างหนัก และแม้ฝ่ายไทยยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแผ่นดินไทย แต่ต้องยอมรับว่าการยึดคืนเนิน 350 มีความยากลำบากอย่างมาก
“จากบทเรียนในอดีตที่เคยไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นอีกความพยายามครั้งสำคัญของกองทัพไทย ท่ามกลางความสูญเสียของกำลังพลที่เกิดขึ้น ขณะที่ฝ่ายไทยดำเนินการในฐานะฝ่ายรุก ด้วยการสนธิกำลังทุกเหล่าทัพ ทั้งทหารราบ อาวุธยิงสนับสนุน และการสนับสนุนทางอากาศ”
ในทางการข่าวมีการประเมินว่าสถานการณ์การควบคุมพื้นที่เนิน 350 ในขณะนี้ยังไม่สามารถเรียกได้ว่ายึดครองอย่างสมบูรณ์ โดยอยู่ในภาวะ “50-50” เนื่องจากยังมีการปะทะและการผลักดันพื้นที่กลับไปกลับมาอย่างต่อเนื่อง
พ.อ.ริชฌา บอกว่า การสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสูญเสียกำลังรบจนไม่สามารถโต้กลับได้ หรือแม้กำลังพลยังอยู่ แต่ขีดความสามารถทางอาวุธและการสนับสนุนถูกทำลายจนหมดศักยภาพ ตัวอย่างที่เห็นชัดคือพื้นที่ ช่องอานม้า โดยเฉพาะ เนิน 677 ซึ่งกองทัพไทยสามารถประกาศควบคุมได้ 100% หลังยึดจุดสูงสุดในพื้นที่ ส่งผลให้สามารถผลักดันกองกำลังกัมพูชาออกจากเนินอื่น ๆ และฐานทหารโดยรอบได้อย่างรวดเร็ว จนฝ่ายตรงข้ามหมดความสามารถในการยึดคืน ทำได้เพียงยิงรบกวนเท่านั้น
กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อสามารถทำลายทั้งกำลังรบและอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามได้ การสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่ก็จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับปราสาทตาควาย ความเข้มข้นของการตอบโต้จากฝ่ายกัมพูชายังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เป็น “ไอคอน” ทางประวัติศาสตร์และการเมืองที่ไม่อาจยอมเสียได้ง่าย ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังคงขับเคี่ยวกันอย่างใกล้เคียง
จึงทำให้การหยุดยิงในพื้นที่แนวหน้าทำได้ยาก เพราะการปะทะไม่ได้เป็นเหมือนการ “ปิดสวิตช์ไฟ” เมื่อฝ่ายหนึ่งยิง อีกฝ่ายย่อมต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง
แม้บางพื้นที่ เช่น หนองจาน และหนองหญ้าแก้ว ก็ยังไม่สามารถสถาปนาความมั่นคงได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในภาพรวม ฝ่ายความมั่นคงมองว่า ไทยยังคงได้เปรียบในหลายจุดสำคัญ ทั้งช่องอานม้า เนิน 677 c]tช่องคนาร์ และฐานทหารกัมพูชาบางแห่งที่สามารถยึดคืนมาได้
และสถานการณ์ทั้งหมดสะท้อนว่า สมรภูมิรบปราสาทตาควายและเนิน 350 จะยังคงเป็นจุดชี้ขาดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าฝ่ายใดจะสามารถเปลี่ยน “ความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์” ให้กลายเป็นพื้นที่ “ความมั่นคงถาวร” ได้ก่อน
อ่านข่าว
รบไทย-กัมพูชา “ทางเลือกสุดท้าย” ภายใต้กรอบความชอบธรรม
แนวรบตาพระยาเดือด ถล่ม “ปอยเปต” สกัดทหารเขมร ยิงอาวุธหนัก