วันนี้ (26 ธ.ค.2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปเสียงสนทนาที่พาดพิงถึงการเรียกรับผลประโยชน์ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 โดยยืนยันว่า
การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ล่าช้า และยังอยู่ในกรอบเวลาตามขั้นตอนของต้นสังกัด พร้อมกำชับให้ตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ตัวเองในฐานะผู้บังคับบัญชามีความเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดและผู้ถูกร้องเรียนย่อมมีสิทธิ์ชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจตามกระบวนการ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ยังได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่แล้ว แม้ผู้บังคับการจะยอมรับว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงของตัวเอง จำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดว่า เป็นการพูดคุยในเชิงการมอบนโยบาย การกำชับการทำงาน หรือเข้าข่ายการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจนจากพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่สามารถตัดสินจากคลิปเสียงเพียงส่วนเดียวได้
ผบ.ตร.ยังชี้แจงถึงกระแสที่มองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำซ้อนในพื้นที่ภาค 8 ภายหลังจากก่อนหน้านี้มีกรณีซื้อขายตำแหน่ง และขณะนี้กลับมีประเด็นเรียกรับผลประโยชน์เข้ามาอีก โดยระบุว่า เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้บังคับบัญชาระดับสูงในพื้นที่ ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นผู้กำกับดูแล และต้องเร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่เกิดความคลางแคลงใจในสังคม ทุกอย่างต้องยึดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ไม่มีเรื่องต้องกังวล และไม่มีการปกป้องผู้ใดทั้งสิ้น
ป.ป.ช.สั่งสอบคู่ขนาน ปมคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์นครศรีฯ
ผบ.ตร.เชื่อมีตำรวจเอี่ยว 3 นาย คลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์นครศรีฯ











