ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พบอีกครั้งในรอบ 30 ปี "แมวป่าหัวแบน" สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์

สิ่งแวดล้อม
13:41
748
พบอีกครั้งในรอบ 30 ปี "แมวป่าหัวแบน" สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์
อ่านให้ฟัง
06:12อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุทยานแห่งชาติฯ และองค์การแพนเทอราฯ ประกาศการสำรวจพบ "แมวป่าหัวแบน" สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของไทย หลังไทยไม่มีรายงานการพบมาแล้วเกือบ 30 ปี

กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ จับภาพ "แมวป่าหัวแบน" หนึ่งในแมวป่าที่พบเห็นได้ยากในประเทศไทย และไม่มีรายงานการพบมาแล้วเกือบ 30 ปี โดยถูกพบอีกครั้งในปีที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย โดยความร่วมมือของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์การแพนเทอราฯ องค์กรอนุรักษ์แมวป่าระดับโลก พร้อมทั้งประกาศการสำรวจพบครั้งนี้เนื่องในวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ในวันที่ 26 ธ.ค.2568

การสำรวจพบอีกครั้งในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2538 นั้น ในปี 2567 สำรวจพบจำนวน 13 ครั้ง และในปี 2568 พบเพิ่มอีก 16 ครั้ง ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จ.นราธิวาส หรือที่รู้จักกันในชื่อป่าพรุโต๊ะแดง ซึ่งถือเป็นการสำรวจพบแมวป่าหัวแบนที่ได้จำนวนภาพและมีความถี่การได้ภาพมากที่สุดในบรรดาพื้นที่ที่มีรายงานว่ามีแมวป่าหัวแบนอาศัย พร้อมทั้งสามารถบันทึกภาพแมวป่าหัวแบนพร้อมลูก ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญว่ายังมีการสืบพันธุ์ในพื้นที่

ด้วยจำนวนประชากรที่คาดว่าจะเหลือเพียง 2,500 ตัวทั่วโลก แมวป่าหัวแบนถูกจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตามบัญชีขององค์การระหว่างประเทศเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และสำหรับประเทศไทย IUCN ได้ระบุสถานะของแมวป่าหัวแบนว่า “อาจสูญพันธุ์แล้ว”

ทั้งนี้ การประเมินสถานภาพล่าสุดโดยแพนเทอราเพื่อจัดทำ IUCN Red List และ Green List คาดว่าจะเผยแพร่ในต้นปี 2569 ซึ่งจะช่วยเติมเต็มความเข้าใจของนักวิจัยทั่วโลกเกี่ยวกับสถานภาพการอนุรักษ์ของสายพันธุ์นี้

การพบเห็นที่ยากเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นสัตว์ที่ยากต่อการสังเกต ด้วยขนาดตัวที่เล็ก จำนวนประชากรน้อย มีพฤติกรรมหากินเวลากลางคืน รวมทั้งถิ่นอาศัยที่เป็นป่าดิบชื้น พรุ หรือตามลำธารที่คนเข้าถึงลำบาก ทำให้การศึกษาทางนิเวศวิทยาต้องเผชิญกับความท้าทายสูง การค้นพบสัตว์ป่าหายากที่หายไปนานแล้วของไทย เป็นภาพสะท้อนที่ทรงพลังของความมุ่งมั่นระยะยาวของเราในการอนุรักษ์

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา อาจพูดได้ว่าแมวป่าหัวแบนถูกจัดว่า "อาจสูญพันธุ์ไปแล้ว" แต่หลังจากการคุ้มครองพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่คาดว่าเป็นแหล่งอาศัยในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะนี้พบแมวป่าหัวแบน หลังจากไม่สามารถบันทึกภาพได้นานถึงเกือบ 30 ปี ในวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติครั้งนี้ การฟื้นคืนของแมวป่าหัวแบนเป็นเครื่องพิสูจน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งว่า

เมื่อเราปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของเรา เราก็กำลังปกป้องถิ่นอาศัยของสัตว์ป่า และอนาคตของชาติไปพร้อมกัน

ขณะที่ น.ส.กฤษณา แก้วปลั่ง ผู้อำนวยการองค์การแพนเทอรา ประเทศไทย กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าการผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และการคุ้มครองที่เข้มแข็ง ทำให้สิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นได้ ความสำเร็จนี้มาจากความทุ่มเทของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยที่อุดมสมบูรณ์ แต่กำลังถูกคุกคามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เราตั้งใจจะขยายงานวิจัยและเสริมมาตรการอนุรักษ์ในพื้นที่สำคัญเหล่านี้ต่อไป

รู้จัก "แมวป่าหัวแบน"

แมวป่าหัวแบน มีชื่อเรียกตามลักษณะเด่นคือศีรษะและกะโหลกที่แบนยาว เป็นแมวป่าที่มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ น้ำหนักน้อยกว่าแมวบ้านทั่วไปครึ่งหนึ่ง เชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับแมวลายหินอ่อนและแมวดาว (leopard cat) มากที่สุด ลำตัวเรียวยาว ขาสั้น และหางสั้น ปลายเท้าเป็นพังผืดช่วยให้สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่ลุ่มน้ำ ป่าพรุ และพื้นที่ชุ่มน้ำได้ดี ซึ่งเป็นถิ่นหากินที่เต็มไปด้วยสัตว์น้ำ

ภัยคุกคามสำคัญของแมวป่าหัวแบน มาจากการสูญเสียถิ่นอาศัยเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเปลี่ยนพื้นที่เพื่อเป็นพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ประมง การล่าสัตว์ มลพิษในแหล่งน้ำ และโรคจากสัตว์เลี้ยง การแย่งชิงพื้นที่จากมนุษย์ทำให้ถิ่นอาศัยลดลงและเหลือเพียงพื้นที่ห่างไกลที่ยังสมบูรณ์เท่านั้น การรักษาระบบนิเวศเหล่านี้จึงสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการจัดการระดับน้ำและการป้องกันไฟป่า

อ่านข่าว :

ทส.แจกของขวัญปีใหม่ เข้าฟรีอุทยานฯ ทั่วไทย ช่วงหยุดยาว 5 วัน

ต้อนรับวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ พบเสือดำ 2 ตัวครั้งแรกในพื้นที่น้ำตกป่าละอู