ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สดุดี “11 ทหารกล้า” เสียขา ปกป้องอธิปไตยไทย เขมรละเมิด “ออตตาวา”

อาชญากรรม
15:16
750
สดุดี “11 ทหารกล้า” เสียขา ปกป้องอธิปไตยไทย เขมรละเมิด “ออตตาวา”
อ่านให้ฟัง
10:08อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

สงครามไทย-กัมพูชา ไม่เพียงให้ประเทศชาติต้องสูญเสียนักรบกล้าถึงจำนวน 42 นาย จากศึกปะทะ 2 รอบ รอบแรกระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค.2568 และรอบสองระหว่างวันที่ 7 -27 ธ.ค.2568 แต่ผลพวงของการสู้รบมีทหาร ต้องเสียขา จากการเหยียบกับระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ของทหารเขมรที่ลักลอบนำไปวางไว้ตามบริเวณปราสาท แนวรบพระวิหารและพื้นที่ชายแดน จำนวน 11 ขา

แม้จะมีการประชุมทวิภาคี ไทย-กัมพูชา เจรจาหยุดยิง มาถึง 2 รอบ โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา หนึ่งในสาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วมของการประชุมทวิภาคี ( GBC)   ที่ทั้งสองฝ่ายมีพันธะต้องปฏิ บัติตาม คือ การปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และการค้ามนุษย์

แต่ข้อเท็จจริงกลับสวนทางสิ่งที่เกิดขึ้น “หยุดยิง” แล้ว ทว่า “ทหารไทย” ที่เข้าเก็บกู้กวาดล้างทุ่นระเบิด เพื่อเคลียร์พื้นที่ ยังคง “เสียขา” จากทุ่นระเบิดที่ทหารกัมพูชานำไปฝังไว้ตามจุดต่าง ๆ จำนวนมาก เพื่อแลกกับการได้มาซึ่งพื้นที่อธิปไตยของไทยกลับคืนมา และยังไม่รวมพฤติกรรมยั่วยุของฝั่งเขมรด้วยการส่ง “โดรน”ขึ้นบิน ในยามวิกาล จำนวน 250 ลำ ข้ามมายังฝั่งไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อหยุดยิง แม้ล่าสุด ปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่า ทั้งไทย-กัมพูชา ได้หารือกันแล้ว และจะสอบสวนเหตุเพื่อหาข้อยุติโดยทันที

การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง  ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และอนุสัญญาออตตาวา โดยทุก ๆ ครั้งที่ทหารเหยียบกับระเบิด กองทัพได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อรายงานคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนรับทราบข้อเท็จจริง ตามกรอบการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และให้กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงนานาชาติว่ากัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อตกลงของอนุสัญญาฯไม่ได้มีบทลงโทษทางเศรษฐกิจหรือการใช้กำลังโดยตรง อาศัยเพียงแรงกดดันจากประชาคมโลก การถูกประณามอย่างรุนแรง จากนานาชาติ หรือองค์กรระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม ICBL ( International Campaign to Ban Landmines) เท่านั้น 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทหารไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนให้เห็นว่าสองพ่อ-ลูกตระกูลฮุน “ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต” ไม่ได้ความสำคัญเรื่อง“อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด”หรืออนุสัญญาออตตาวา แม้แต่น้อย

สำหรับนักรบไทยที่ต้อง “เสียขา” จากการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในแนวรบพระวิหาร -ตาพระยาและชายแดนด้าน จ.ตราด ในการศึกไทย-เขมร 2 รอบ มีจำนวน 11 นาย คือ 

16 ก.ค. 2568 พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน เสียขาข้างซ้าย จากการเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี

23 ก.ค. 2568  จ.ส.อ. พิชิตชัย บุญชูหล้า สูญเสียขาขวา จากการ เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี

ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร หรือ หมวดบุ๊ค

ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร หรือ หมวดบุ๊ค

28 ก.ค. 2568 ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร หรือ “หมวดบุ๊ค” สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 2 (รพศ.2 พัน2) สูญเสียขาข้างขวา จากการเหยียบทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้รอบปราสาทตาควาย

หลังมีการเจรจาสันติภาพ “หยุดยิง” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย หยุดยิง เมื่อวันที่ 28  ก.ค. 2568 ได้มีเหตุการณ์ทหารเสียขาอีก 2 นายจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ กองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลต้องทำหนังสือประท้วงทันที

9 ส.ค. 2568 จ.ส.อ. ธานี พาหา ผู้บังคับหมู่ป้องกัน หน่วยกองร้อยทหารราบ 111 เสียขาซ้ายจากเหยียบทุ่นระเบิด ฯขณะลาดตระเวนเส้นทางพื้นที่รอยต่อช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บริเวณภูมะเขือ) จ.ศรีสะเกษ

ส.อ. ธีรพล เพียขันที

ส.อ. ธีรพล เพียขันที

12 ส.ค. 2568 ส.อ. ธีรพล เพียขันที  ทหารพราน เสียขาซ้าย จากการเหยียบทุ่นระเบิดที่ทหารกัมพูชาวางไว้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งปราสาทตาเมือนทม จ.สุรินทร์ โดยกองทัพบก ระบุว่า จากสภาพทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ดูใหม่ และพื้นที่เหยียบทุ่นระเบิด

เป็นพื้นที่ปฏิบัติการลาดตระเวนตามปกติของทหารไทย จึงชัดเจนว่า ทหารกัมพูชาลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด เพื่อประสงค์ร้ายต่อทหารไทย เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตโตวา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง

พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง

พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง

27 ส.ค. 2568 พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง พลปืนกลมินิ สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 ประจำการพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้เหยียบกับระเบิด PMN-2 ขณะออกตรวจแนวบังเกอร์ 11–12 บริเวณด้านขวาของปราสาทตาควาย อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

10 พ.ย. 2568 จ.ส.อ.เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ อาการข้อเท้าขวาขาด จากการเหยียบกับระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง

 

22 ธ.ค. 2568 จ.อ.เทอดพงษ์ ผมนะรา สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองทัพเรือ เหยียบทุ่นระเบิดที่ทหารกัมพูชาฝังไว้ใต้ดิน ทำให้ระเบิดทำงาน บาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขาขวาขาด ขณธปฎิบัติภารกิจพื้นที่บ้านหนองรี หรือ บ้านสามหลัง  ในพื้นที่ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด

จ.อ.เทอดพงษ์ ผมนะรา

จ.อ.เทอดพงษ์ ผมนะรา

26 ธ.ค.2568 ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง หรือ “หมู่เพลง” พลทำลาย สังกัดสังกัด พัน.ร.22 ทหารชุดเก็บกู้ระเบิด ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด จากการเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ขณะปฏิบัติภารกิจใกล้กับปราสาทตาควาย

ทั้งนี้ ส.อ.นิติธรรม ได้โพสต์ภาพอัปเดตอาการผ่านเฟซบุ๊ก “หมู่เพลงทำทุกอย่าง” ระบุว่า ผมไม่เสียใจเลย เพราะมันคือหน้าที่ของผม มันเป็นสิ่งที่ผมจะต้องทำ จะต้องเสียสละเพื่อคนข้างหลัง เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน ถึงแม้พวกท่านจะไม่ได้ร้องขอให้ผมทำมันก็ตาม แต่ผมก็จะต้องทำ เพราะมันคือ “หน้าที่

ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง หรือ “หมู่เพลง”

ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง หรือ “หมู่เพลง”

27 ธ.ค. 2568 พลทหาร นรินทร์ เงาไพร สังกัดพัน.ร.12 เหยียบทุ่นระเบิดที่ทหารกัมพูชาวางไว้พื้นที่เขาสัตตะโสม จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณขาข้างซ้าย

29 ธ.ค. 2568 จ.ส.ต.สุจินต์ จิตกรียาน สังกัด กองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เหยียบกับระเบิดสังหารบุคคล ขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่กวาดล้าง พื้นที่สัตตะโสม จ.ศรีษะเกษ ที่ยึดคืนมาได้ แรงระเบิดส่งผลให้ ขาซ้ายขาดและมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ตาซ้าย เสียขานายที่ 11

มีรายงานจากกองทัพบกว่า ทหารทั้ง 11 นาย ได้เข้ารับการดูและรักษาอย่างต่อเนื่องจากทีมแพทย์และพยาบาล และนักรบทุกคนยังมีกำลังใจดีเยี่ยม และขอส่งกำลังใจให้ พลทหาร นิธิกร สมทุม (น้องโตเกียว) สังกัด ร.2 พัน.1 รอ. จากเหตุปะทะในพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อ26 ธ.ค.2568 และทหารที่ได้รับบาดเจ็บทุกนาย ให้ฟื้นตัวเร็ววัน

ไทยพีบีเอส ออนไลน์ ขอสดุดีความเสียสละต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลทุกนาย จากสามเหล่าทัพ รวมทั้ง นักรบชุดดำ “ทหารพราน” ตชด.และผู้ปิดทองหลังพระทุกท่าน

 

อ่านข่าว

ผลประชุม 3 ฝ่าย "จีน-ไทย-กัมพูชา" สร้างความยั่งยืนหยุดยิง-ฟื้นฟูสัมพันธ์

“ฮุน เซน” อกแตก “ไทย-เขมร” หยุดยิง  “สร้างสันติภาพ” บนเส้นทางคู่ขนาน

รอยจารึกในแผ่นดิน “อาลัย 42 ทหารกล้า” ความภูมิใจไทยทั้งชาติ