วันนี้ (30 ธ.ค.2568) น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ
ซึ่งปัจจุบันผู้นำเข้าสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถนำเข้าได้ภายใต้ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี พ.ศ.2568 พ.ศ.2567 และระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568 พ.ศ.2567 อย่างไรก็ดียังไม่มีมาตรการทางกฎหมายของหน่วยงานใดที่กำกับดูแลในบริบทการนำเข้าสินค้าเกษตร (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) ว่าเป็นผลผลิตที่มาจากการเกษตรแบบปลอดเผา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นลดผลกระทบจากการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศโดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในประเทศ รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (11 เม.ย.2568) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ได้ยกร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการ จัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.สินค้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หมายความว่า ข้าวโพดที่เหมาะสำหรับทำอาหารสัตว์ตามพิกัดอัตราศุลกากร ประเภทย่อย 1005.90.99 รหัสสถิติ 001
2.เอกสารหลักฐานประกอบการนำเข้า หนังสือรับรองว่าเป็นผลผลิตที่มาจากการทำเกษตรแบบปลอดเผาอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้แสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
1) หนังสือรับรองตนเองของผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่แสดงว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นผลผลิตที่มาจากการทำเกษตรแบบปลอดการเผา เช่น ข้อมูลผู้นำเข้า เป็นบุคคลธรรมดา/นิติบุคคล, นำเข้าจากประเทศอะไร, วัน/เดือน/ปี นำเข้า ข้อมูลการเพาะปลูก ตามแบบ ขพ.1 ท้ายร่างประกาศ
2) เอกสารหลักฐานที่รับรองว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นำเข้าเป็นผลผลิต ที่มาจากการทำเกษตรแบบปลอดการเผาที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจของประเทศผู้ส่งออก หรือออกให้โดยหน่วยงานหรือสถาบันที่หน่วยงานของรัฐของประเทศผู้ส่งออกให้การรับรองหรือมอบหมาย หรือออกให้โดยหน่วยงานหรือองค์กรอื่นของประเทศผู้ส่งออก หรือองค์กรที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นสากล
3.หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำเข้า ผู้นำเข้าต้องปฏิบัติตามมาตรการเพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ดังต่อไปนี้
1) ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไว้กับกรมการค้าต่างประเทศหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ก่อนนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศประกาศกำหนด
2) ต้องรายงานการนำเข้าตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศประกาศกำหนด
4.ข้อยกเว้น การนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรในกรณีจำเป็นเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สาธารณประโยชน์ การสาธารณสุข ความมั่นคงของประเทศ หรือประโยชน์อื่นใดของรัฐโดยหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.)
1) การนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อใช้เป็นตัวอย่างหรือการศึกษาวิจัย ทั้งนี้ ในปริมาณเท่าที่จำเป็น และต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยพันธุ์พืช (พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
5.วันที่มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป
ร่างประกาศในเรื่องนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ โดยเป็นการลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการเผาแปลงเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้าน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและคุณภาพอากาศในประเทศ รวมถึงเป็นการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ การกำหนดให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติเห็นชอบหลักการไว้เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2568 ซึ่งเป็นมติคณะรัฐมนตรีที่มีขึ้นก่อนที่จะมีการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 ซึ่งมีผลใช้บังคับนับแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568 เป็นต้นไป ประกอบกับเรื่องนี้เป็นการกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 ให้อำนาจไว้ ย่อมดำเนินการได้ตามปกติ โดยไม่ขัดต่อมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
อ่านข่าว :
ครม.ย้ำรีบใช้ "คนละครึ่งพลัส" ยอดเงินยังไม่ใช้สิทธิเหลือรวม 6,000 ล้าน
ครม.เห็นชอบลดเงินสมทบประกันสังคม นายจ้าง–ผู้ประกันตน 6 เดือน 9 จังหวัดภาคใต้
ปีใหม่ 69 ใช้จ่ายคึกคักสุดรอบ 6 ปี ม.หอการค้าคาดงินสะพัดเพิ่ม 2% ทั่วไทย











