วันนี้ (30 ธ.ค.2568) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเด็นที่แจ้งแก่คณะทูตซึ่งเข้ารับฟังการบรรยายวันนี้ เกี่ยวกับการประชุมที่สำคัญ 3 ครั้ง ซึ่งไทยได้เข้าร่วม วันนี้มีผู้แทนจาก 60 ประเทศ 1 องค์กรและ 3 องค์การ เข้าร่วมรับฟังการบรรยายรวม 78 ท่าน
ซึ่ง นายสีหศักดิ์ ย้ำถึงท่าทีของไทยในเวทีประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่า การหยุดยิงจะไม่ได้มาด้วยการประกาศ แต่ทหารทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน จึงนำมาซึ่งการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC สมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ 24-27 ธ.ค. ที่ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน ต่อด้วยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ฝ่ายที่มณฑลยูนนาน ซึ่งนับเป็นโอกาสให้รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาได้พูดคุยกัน โดยจีนทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพช่วยอำนวยความสะดวก
รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยด้วยว่า ในอนาคตอาจพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาได้อีก ในรูปแบบการหารือทวิภาคี แต่ในช่วงนี้ยังเน้นให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความเชื่อใจซึ่งกันและกัน และการหยุดยิงก่อน ซึ่งการฟื้นความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ จะเกิดขึ้นตามมาเอง
โดยช่วงหนึ่ง นายสีหศักดิ์ ตอบคำถามสื่อต่างชาติ ระบุว่า จีนได้เสนอให้ความช่วยเหลือ แต่ก็หวังว่าจะไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือจากจีน เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศหารือกัน และทราบถึงเป้าหมายร่วมกันแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ 2 ประเทศควรจะร่วมมือกันดำเนินการตามเป้าหมายให้ได้ด้วยตัวเอง
ขณะที่ นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การให้ความช่วยเหลือของจีน เกี่ยวกับการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ทั้งสองฝ่ายคือไทยและกัมพูชา เห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากจีน หากมีความจำเป็น สองฝ่ายจะหารือกันเองก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งสิ่งที่ไทยให้ความสำคัญคือประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ส่วนประเด็นการปล่อยทหารกัมพูชา 18 นาย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า วันและเวลาของการปล่อยตัวขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคง
อ่านข่าว :
ผลประชุม 3 ฝ่าย "จีน-ไทย-กัมพูชา" สร้างความยั่งยืนหยุดยิง-ฟื้นฟูสัมพันธ์
ทภ.2 ยันชายแดนไร้ปะทะ พบกัมพูชาขนกำลัง-โดรนสอดแนม
ทรัมป์ชมเนทันยาฮู หยุดยิงตามแผน 100% เร่งคุย "สันติภาพกาซา" เฟส 2











