ศาลพิพากษาประหารชีวิตตำรวจเกี่ยวข้องคดีฆ่าแขวนคอเยาวชน 17 ปี
ญาติของนายเกียรติศักดิ ถิตย์บุญครอง ต้องเรียกร้องความเป็นธรรมจากการเสียชีวิตที่เกิดจากการกระทำของตำรวจสังกัดภูธรเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเวลานานเกือบ 8 ปี ซึ่งขณะที่นายเกียรติศักดิ์ เสียชีวิตมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น
เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อว้นที่ 22 กรกฎาคม 2547 เมื่อมีผู้พบศพ นายเกียรติศักดิ์ ถูกแขวนคอที่กระท่อมกลางนาแห่งหนึ่ง ในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยก่อนหน้านี้ ย่าของผู้เสียชีวิต ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสังกัดภูธรเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่านายเกียรติศักดิ์ หลานชายหายตัวไป ขณะถูกสอบสวนคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในควบคุมของตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ แต่หลังจากนั้นจึงพบว่า ไปเป็นศพถูกแขวนคอ
โดยญาติของ นายเกีรยติศักดิ์ ได้เข้าร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากพบความผิดปกติของศพของหลานชาย และได้นำส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้ผ่าพิสูจน์ จึงพบว่าตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้าย รวมถึงรอยเชือกที่ลำคอ ก็เกิดขึ้นหลังเสียชีวิตแล้วจึงไม่น่าจะเกิดจากการฆ่าตัวตาย และมีความเป็นไปได้ว่ามีการฆาตกรรมมาจากที่อื่นก่อนนำมาศพมาแขวนคอเพื่ออำพรางคดี
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเรื่องเป็นคดีพิเศษพร้อมสอบสวน แล้วเห็นว่า มีตำรวจ 6 นายที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับคดี คือ ด.ต.อังคาร คำมูลนา, ด.ต.สุทธินันท์ โนนทิง, ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์, พ.ต.ท.สุมิตร นันสถิตย์, พ.ต.ท.สำเภา อินดี และ พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นปิดบังอำพรางการตาย รวมถึงใช้อำนาจตำแหน่งช่วยเหลือให้ผู้กระทำผิดพ้นโทษ
จนในวันนี้ (30 ก.ค.) ศาลได้ตัดสินพิพากษาประหารชีวิต ด.ต.อังคาร, ด.ต.สุทธินันท์ และ ด.ต.พรรณศิลป์ ส่วน พ.ต.ท.โทสุมิตร ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และ พ.ต.อ.มนตรี โทษจำคุกเป็นเวลา 7 ปี ขณะที่ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง พ.ต.ท.สำเภา เพียงคนเดียว
ก่อนหน้านี้ในปี 2544-2549 จังหวัดกาฬสินธุ์ พบการเสียชีวิตของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่มากกว่า 20 ศพ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตาย โดยบางรายพบศพฝังดิน หรือบางรายหายไปก่อนจะพบเป็นศพในอีกพื้นที่
แท็กที่เกี่ยวข้อง: