ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"พริษฐ์" ยังไม่ฟันธงร่วมยื่นซักฟอก ขอดู "ครม.ใหม่" ก่อน

การเมือง
12:14
145
"พริษฐ์" ยังไม่ฟันธงร่วมยื่นซักฟอก ขอดู "ครม.ใหม่" ก่อน
อ่านให้ฟัง
10:13อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พริษฐ์" โฆษกพรรคประชาชน ยังไม่ฟันธง ร่วมยื่นซักฟอกรัฐบาล กับ "ภท." หรือไม่ กับ ขอรอดู ครม.ใหม่ ก่อนตัดสินใจ พร้อมชี้ อภิปรายตาม ม.151 เป็นอาวุธหนักต้องตรงเป้าหวังผลได้

วันนี้ (25 มิ.ย.2568) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคประชาชนกล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมเสนอขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ คณะรัฐมนตรีในการเปิดสมัยการประชุมในวันที่ 3 ก.ค.ว่า ต้องขอบคุณพรรรฝ่ายค้านน้องใหม่ อย่างพรรคภูมิใจไทยที่เชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านผ่านสื่อมวลชน เรื่องแนวคิดเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151

แต่ในส่วนของพรรคประชาชนวางหลักการไว้ว่า ยืนยันว่า จะใช้ทุกกลไกของรัฐสภาในการตรวจสอบรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ การอภิปรายตาม ม.151 และ ม.152 รวมถึงกรรมาธิการฯ โดยสถานการณ์ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มสูญเสียความไว้วางใจต่อรัฐบาลเราก็พร้อมเป็นตัวแทนในการตรวจสอบรัฐบาล

ขอยืนยันว่า กลไกตาม ม.151 มาแน่นอน แต่กลไกนี้เป็นอาวุธที่ทรงพลัง แต่ใช้ได้เพียง 1 ครั้งต่อสมัยการประชุม คือ ตั้งแต่ในวันที่ 3 ก.ค.ปี 68  -  2 ก.ค.ปี 69 จะใช้ได้เพียง 1 ครั้ง ดังนั้นแม้จะเป็นอาวุธที่ทรงพลังแต่ต้องใช้อย่างแม่นยำและต้องหวังผล

ทั้งมติในสภาและความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล แต่อีกมุมหนึ่งก็ไม่ต้องการให้ใช้อาวุธนี้อย่างเสียของ เพราะหากใช้ไปแล้วนายกฯพ้นจากตำแหน่งไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด จะกลายเป็นว่า ไม่สามารถใช้กลไกนี้ได้อีกแม้จะมีนายกฯคนใหม่เข้ามา จึงจำเป็นต้องหารือเรื่องจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม ม.151 โดยจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

ส่วนที่ทางรัฐบาล ระบุว่าเพิ่งมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ควรให้เวลาทำงานก่อนนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่าไม่ได้เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นนักเพราะนายกฯ ยังเป็นคนเดิมแม้ปรับ ครม.จะเปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งเชื่อว่ารัฐมนตรีใหม่ส่วนหนึ่งเป็นคนที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้ว จึงต้องขอดูก่อนว่า ครม.ใหม่ที่จะตั้งประกอบด้วยใครบ้าง จะได้สรุปถูกว่า นอกจากจะยื่นอภิปรายไม่ไหวไว้วางใจนายกฯแล้ว จะยื่นไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนใดอีกบ้าง

อ่านข่าว : โผ ครม.แพทองธาร 2 "บิ๊กเล็ก" เต็งหนึ่ง รมว.กห. "ภูมิธรรม" โยกนั่ง มท.1 

ทั้งนี้ในระหว่างการรอหารืออยากจะสื่อสารไปถึงนายกฯ อยากให้ใช้เวลาในช่วงนี้ทบทวนการทำหน้าที่ของตัวเอง ตนเข้าใจว่าสถานการณ์ในปัจจุบันมีหลายมิติ การตัดสินใจของรัฐบาลอาจจะมีการเลือกวิธีที่ถูกบ้างผิดบ้าง ในฐานะฝ่ายค้านก็จะพยายามเสนอแนะหากเห็นว่า ดำเนินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง แต่คิดว่าคุณสมบัติของผู้นำเมื่อใดก็ตามที่ผิดพลาดไปก็ควรต้องรู้ตัวเอง และการที่นายกฯออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคลิปเสียงที่คุยกับสมเด็จฮุนเซนไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นการสะท้อนให้เห็นว่านายกยังไม่ทบทวนอย่างจริงจังในข้อผิดพลาดที่ทำไปเป็นอย่างไร

อยากให้นายกฯทบทวนตัวเองว่า พร้อมจะทำหน้าที่ต่อหรือไม่ หากทบทวนแล้วคิดว่าไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจากประชาชนกลับคืนมาได้ ทางพรรคยืนยันว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ได้ยื่นญัตติไปแล้ว ทางเลือกของนายกฯในการยุบสภาก็จะไม่มีอีกต่อไป

ส่วนเมื่อพรรคภูมิใจไทยประกาศจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมาแล้วจะมีการทบทวนหรือชะลออย่างไรนั้น นายพริษฐ์ ย้ำว่า การยื่นญัตติ ตาม ม.151 จะต้องหารือร่วมกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ก็ถือว่า เป็นแนวคิดของพรรคฝ่ายค้านน้องใหม่ที่ยื่นผ่านสื่อมวลชน แต่ในเชิงทางการพรรคประชาชนได้นัด สส.หารือกันอยู่แล้วในเรื่องนี้ และเมื่อได้ข้อสรุปก็จะหารือร่วมกับฝ่ายค้านพรรคอื่น เพราะมีการเปลี่ยนองค์ประกอบรัฐบาลจึงต้องมีการหารือร่วมกัน ทั้งเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม ม.151 และสัดส่วนวิปฝ่ายค้าน

อ่านข่าว : "สมศักดิ์" ยัน อนาคต "กัญชา" กลับไปเป็น "ยาเสพติด" แน่

เมื่อถามว่าเป็นเพราะมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่ นายพริษฐ์ ปัจจัยไม่ใช่เรื่องข้อมูลแต่เป็นเรื่องของจังหวะเวลา ที่จะใช้ได้ผลและไม่เสียของ ซึ่งเรื่องนี้พร้อมหารือกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะทุกคนเห็นถึงสถานการณ์และความไม่พอใจของสังคมต่อการทำหน้าที่นายกฯ

ดังนั้นข้อมูลที่พรรคภูมิใจไทยมีจะต้องนำมากางเพื่อพูดคุยกัน เพราะถ้าเป็นข้อมูลใหม่ ที่เกี่ยวกับการทำงานของพรรคแกนนำรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาถ้านำเสนอต่อสังคมก็อาจทำให้ชัดเจนขึ้นว่าเหตุใดจึงควรไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็จะมีคำถามกลับไปเหมือนกันว่าที่ผ่านมาหากมีข้อมูลนี้มาตลอดทำไมถึงเพิ่งมานำเสนอต่อสังคมในขณะนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะรีบหารือกัน และหวังว่าในวันที่ 3 ก.ค.ก็จะมีการเปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งมีข่าวแว่วมาว่า จะไม่มีการเรียกประชุม เพราะจนถึงขนาดนี้ยังไม่มีหนังสือเชิญถือว่าผิดวิสัยมาก เพราะโดยปกติแล้วหากวันเปิดสมัยการประชุมตรงกับวันพฤหัส แล้วจะมีเพียงวันเดียวแต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยไม่เรียกการประชุม หวังว่าประธานจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้

อ่านข่าว : นายกฯ รับปรับ ครม.ลงตัวแล้ว​ ยันไม่ควบกลาโหม โต้ รทสช.กดดัน 

เมื่อถามย้ำว่า การตีเหล็กควรตีตอนร้อนหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่าเข้าใจความคิดนี้ ว่าควรต้องยื่นเร็วแต่ขอย้ำว่าอาวุธนี้ต้องใช้อย่างแม่นยำจึงควรต้องหารือกันและใช้ในจังหวะที่เหมาะสม และอย่างน้อยที่สุดควรรอการตั้ง ครม.ชุดใหม่ จะได้รู้ว่าต้องยื่นใครบ้าง เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพและเสียงสนับสนุนเพียงพอใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเรื่องนั้น และความจริง การที่รัฐบาลตัดสินใจชะลอ ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ก็เป็นการยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ

แม้จะอ้างว่าเพื่อรอรับฟังเสียงของประชาชนเพิ่มเติม แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่จริง แต่มองว่าที่ต้องชะลอไปเพราะเสียงในสภาไม่พอ เพราะถ้าย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้จะเห็นว่าตัวแทนพรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่าจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็น และประชาชนตอบรับดี

ดังนั้นการเลื่อนวาระนี้ไปไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการฟังเสียงประชาชน ตนเชื่อว่า เลื่อนเพราะเสียงไม่พอ และสะท้อนว่าเสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้เป็นอย่างที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามนำเสนอ และในกรณี พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ต้องหักเสียงของพรรคประชาชาติออกไป และยังไม่นับกับ สส. ของพรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่อาจไม่เห็นด้วย

ทั้งนี้นายพริษฐ์ ยังย้ำว่า สำหรับพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรทางออกนั้น ไม่ควรเป็นการเลื่อน แต่ควรจะเป็นการถอนออกมา แต่ตนเดาว่ารัฐบาลน่าจะมาทางนี้ โดยให้ชะลอและอ้างการรับฟังเสียงประชาชน ดังนั้นถ้าจริงใจที่จะฟังเสียงของประชาชนควรถอนไม่ใช่เลื่อนออกไป

อ่านข่าว : "เดชอิศม์" รับ ปชป. ได้รมช. เพิ่ม 1 เก้าอี้ เป็นของ "ชัยชนะ"

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยที่มีจุดยืนไม่ตรงกันรับมาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำให้การทำงานมีปัญหาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า โดยระบบรัฐสภาฝ่ายค้านไม่มีสิทธิ์เลือก เหมือนที่ตนเคยเปรียบเปรยไว้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลกับคนที่เป็นแฟนกันแต่พรรคฝ่ายค้านเหมือนคนโสดที่เหลืออยู่มาร่วมกันจึงเลือกไม่ได้

ตั้งแต่มีสภาชุดนี้มาพรรคประชาชนต้องอยู่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านมากมายไปหมด บางพรรคตอนแรกก็เป็นฝ่ายค้านแต่พอมีโอกาสร่วมรัฐบาลก็ไปร่วมทันที บางพรรคอาจจะเคยอยู่รัฐบาลแต่ก็มีครึ่งหนึ่งมาอยู่ฝ่ายค้าน จึงคิดว่าพรรคประชาชนเดินหน้าทำงานตามจุดยืนแนวทางของเรา อะไรที่ต้องร่วมมือกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันแต่ก็ต้องรักษาจุดยืนและหลักการของตัวเอง

เมื่อถามว่าการตรวจสอบรัฐบาลอาจเป็นการตรวจสอบย้อนหลังถึงพรรคภูมิใจไทยด้วยจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตรงไปตรงมาเราตรวจสอบทุกคนที่มีอำนาจใครก็ตามใช้อำนาจรัฐแทนประชาชนโดยมิชอบ โดยใช้ภาษีของประชาชนโดยไม่สมเหตุสมผลเราจะตรวจสอบทั้งหมด

อ่านข่าว : "ภูมิใจไทย" เปิดหน้าชน "เพื่อไทย" จ่อรวมฝ่ายค้าน ยื่นอภิปรายฯ นายกฯ-ครม.  

"อนุทิน" รับสัมพันธ์ "ทักษิณ" ไม่เหมือนเดิม ถ้ารักกันคงไม่ยึด มท.  

อัปเดตเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านหลังภูมิใจไทยย้ายเป็นฝ่ายค้าน