ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พลังดูด "ภูมิใจไทย-เพื่อไทย-กล้าธรรม" สส.งูเห่า "ขนมผสมน้ำยา"

การเมือง
14:14
523
พลังดูด "ภูมิใจไทย-เพื่อไทย-กล้าธรรม" สส.งูเห่า "ขนมผสมน้ำยา"
อ่านให้ฟัง
07:11อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

จัดหนักในฐานะฝ่ายค้านเต็มรูปแบบ ค่ายสีน้ำเงิน "ภูมิใจไทย" แบบไม่เกรงใจ "เท้ง"ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภา เมื่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี วันที่ 1 ก.ค.นี้ ท่ามกลางข่าวสะพัด สส.ในพรรคถูกฝ่ายตรงข้ามทาบทาม "ดูด"เป็น"งูเห่า" ด้วยค่าตัวคนละ 20 ล้านบาท

ทำเอาเมื่อวานนี้ ( 25 มิ.ย.2568) หัวหน้าหนู "อนุทิน" ต้องไล่เช็กเสียงสส.ทั้งพรรค และยืนยันว่า สส.ของพรรคทั้ง 69 คนยังอยู่ครบ ไม่ได้หายไปไหน แม้จะมีแรงดูด แต่ก็ดูดไม่ได้ โดยสส.ที่ได้รับการติดต่อมาก็เล่าให้ฟัง

"ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน และไม่เชื่อถือในระบบการเมืองที่มีการดูด สส.กัน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคยึดถือการเมืองรุ่นใหม่"

แม้สส.ของภูมิใจไทยจะยังอยู่ครบ แต่ก่อนหน้านี้ที่มีสส.พรรคไทยสร้างไทยของค่ายคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คือ "อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์" และ"หรั่ง ธุระพล" 2 สส.อุดรธานี จะย้ายมาอยู่ในค่ายสีน้ำเงิน แต่เมื่อสถาน การณ์เปลี่ยน "อนุทิน"หลุดตำแหน่งรองนายกฯ และรมว.มหาดไทยกลายมาเป็นฝ่ายค้าน จึงถูก "มือดี" จากพรรคกล้าธรรม "ฉก" ออกไปร่วมทีม

มีรายงานระบุว่า สำหรับ สส.ของพรรคภูมิใจไทยที่ได้รับการทาบ ทามให้ออกไปเป็น "งูเห่า" มีจำนวน 8 คน อยู่ในภาคอีสานและภาคกลาง แต่ทั้งหมดได้มารายงานตัวกับพรรคและยืนยันยังจะไม่ย้ายพรรคฯไปไหน

เนื่องจากขณะนี้ สถานการณ์ทางการเมือง ยังไม่นิ่ง จากเหตุคลิปลุง -หลาน และเกรงว่าจะไม่สามารถตอบคำถามประชาชนในพื้นที่ได้หากมีการย้ายพรรค หรือถูกโจมตีว่า เป็น "งูเห่า" หรือเจอข้อหา "ขายชาติ" ในขณะนี้ โดยเฉพาะหากมีอุบัติเหตุทางการเมือง แล้วต้องมีการหาเสียงเลือกตั้งก่อนฤดูกาลอันควร

อย่างไรก็ตาม สำหรับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น พรรคภูมิใจไทยจะต้องใช้เสียง ต้องใช้เสียง 1 ใน 5 ของสส.ที่มีอยู่ทั้งหมด 495 คน คือ 99 คน แต่พรรคฯ มีอยู่ 69 คน และต้องหาเสียง สส.มาเติมอีก 30 เสียง ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก เพราะยังมีเสียง สส.ฝ่ายค้านในซีกของพรรคประชาชน และพรรคพลังประชารัฐ ในสัดส่วนของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แม้จะมีเสียงท้วงติงจากพรรคเพื่อไทย "มนพร เจริญศรี" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเวลาที่สภาฯ ยังไม่เปิดสมัยประชุมนั้น อาจไม่เหมาะสม

จากคนที่บริหารงานร่วมกันมา 2 ปี ตนก็งงเช่นกันว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเหมาะกับช่วงเวลานี้หรือไม่ เพราะขณะนี้กำลังมีการพิจารณางบประมาณปี 2569

มนพร บอกว่า ขอโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานก่อนได้หรือไม่ และหากพรรคภูมิใจไทยจะอภิปรายรัฐบาลนี้ ก็จะมีคำถามจากหลายคนว่า ขณะที่ท่านบริหารกระทรวงอยู่ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ พวกท่านทำอะไรไว้

"นี่คือสิ่งหนึ่งที่ดิฉันมองว่ายังไม่มีความเหมาะสมที่จะมายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็เป็นสิทธิของท่าน ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะชี้แจง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องมีการประชุมกันของฝ่ายค้านก่อน เพราะทางผู้นำฝ่ายค้านยังไม่ออกมาแถลงอะไรเลย พรรคผู้นำฝ่ายค้านคือพรรคประชาชนที่มี สส.ถึง 143 คน แต่พรรคภูมิใจไทยมีสส.อยู่ 69 คน และพรรคประชาชนยังไม่ออกมาชี้แจงเลยว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ " มนพร ระบุ

ในขณะที่พรรคกล้าธรรมของ "ผู้กองธรรมนัส" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ต้องเจอปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค เนื่องจาก "น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ก็ต้องการเก้าอี้รมช.ด้วยเหมือนกัน

จนทำให้ "ผู้กองธรรมนัส” ต้องออกมาปฎิเสธพัลวันว่า น.อ.อนุดิษฐ์ ไม่เกี่ยวกับพรรคกล้าธรรม หากจะได้ก็ได้ในโควตาของพรรคอื่น แต่หากไม่ได้จะมีการเลือกคนอื่นแทนก็เป็นเรื่องของพรรคเขา เราไม่เข้าไปก้าวล่วง

น.อ.อนุดิษฐ์ แม้จะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม แต่ก็ไม่ใช่โควตาของพรรค

โดยโควตาของพรรคกล้าธรรม คือ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ "เบ็นซ์" อรรถกร ศิริลัทธยากร มาเป็นรมว.เกษตร และ "อัครา พรหมเผ่า" น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส เป็น รมช.เกษตร

ส่วน "อาจารย์แหม่ม" ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ และ "ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์" บุตรชาย "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ที่มีโอกาสลุ้น รมช.ศึกษาฯ เช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะ "น.อ.อนุดิษฐ์ และนายฉันทวิชญ์" โควตาที่ถูกฝากเลี้ยงไว้ในพรรคกล้าธรรม ซึ่งทั้งสองคนต่างกรอกประวัติตรวจสอบคุณสมบัติแล้วทั้งคู่

ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ขณะนี้เสียงของเรามีมากอยู่แล้ว ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 37 เสียง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอย่างเป็นทางการคือ 26 เสียง คนที่เป็น สส. พรรคกล้าธรรมถูกต้องตามกฎหมาย

ตัวเลขยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเมืองไทย ในยามฝุ่นตลบ ไม่ว่าจะเป็นค่าตัว "งูเห่า" จำนวน 20 ล้านบาท หรือการย้ายพรรค ฝากเลี้ยง เพื่อให้เข้ามามีตำแหน่งเสนาบดีอยู่ในกระทรวงต่าง ๆ ทุกอย่างล้วนมีค่าใช้จ่าย

ถือเป็นคณิตศาสตร์ทางการเมือง ในห้วงที่ประชาชนหน้าดำและต้องสู้กับภาวะเศรษกิจที่สุดแสนจะฝืดเคือง ทั้งหมด คือ ขนมผสมน้ำยา "รักชาวบ้าน"จนปากมัน

อ่านข่าว