ภคต. กำหนด 6 ก.ย. วันต้านคอร์รัปชั่น มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ "ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม"

สังคม
6 ก.ย. 55
07:15
291
Logo Thai PBS
ภคต. กำหนด 6 ก.ย. วันต้านคอร์รัปชั่น มุ่งเน้นยุทธศาสตร์ "ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม"

ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จัดงานสัมมนา รวมพลังภาคธุรกิจต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยเน้นยุทธศาสตร์หลัก 3 ป. ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และ ปราบปราม เพื่อยกระดับประเทศไทย เพิ่มขีดสามารถในการแข่งขันภาคธุรกิจ

ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นของไทย ซึ่งขณะนี้มีองค์กรธุรกิจ 42 แห่งเข้าร่วม โดยเลือกวันที่ 6 ก.ย. เป็น "วันต่อต้านคอร์รัปชั่น" เพื่อรำลึกถึงการเสียชีวิตของนายดุสิต นนทนาคร อดีตประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นคนแรกที่ผลักดันการต่อต้านคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ภาคธุรกิจยังคงห่วงปัญหาคอร์รัปชั่น ที่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันเศรษฐกิจไทย และเป็นปัจจัยลบต่อนักลงทุนต่างชาติ

ศาสตราพิธาน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่าแม้เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม หรือ ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก จะประกาศอันดับขีดความสามารรถในการแข่งขันของไทยในปีนี้ดีขึ้น จากอันดับ ที่ 39 เป็น 38 แต่คะแนนยังคงเดิม โดยนักธุรกิจทั่วโลกเห็นว่าปัญหาในการทำธุรกิจในไทย 2 อันดับแรก คือ เสถียรภาพทางการเมือง และปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจากนี้นักธุรกิจยังมีสัดส่วนความกังวลมากขึ้นจากร้อยละ 14.5 เป็นร้อยละ 16.7 ในปีนี้ ซึ่งศาสตราพิธาน สมคิด เรียกร้องให้ภาคเอกชนรวมพลังต่อต้าน ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ไปมีส่วนร่วม เพราะเอกชน โดยเฉพาะการจ่ายสินบนข้าราชการและนักการเมือง

สอดคล้องกับนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ที่ยอมรับว่า 1 ปีที่ผ่านมา ดัชนีคอร์รัปชั่นของไทยยังไม่ดีขึ้น จากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยล่าสุด ได้คะแนนเพียง 3.4 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 แต่ทั้งนี้แนวคิดต่อต้านคอร์รัปชั่นดีขึ้น เนื่องจากองค์กรต่างๆตระหนักถึงความสำคัญมากขึ้น ซึ่งภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น จะเน้นในเรื่องของยุทธศาสตร์หลัก 3 ป. ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝังและปราบปราม โดยการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในรูปแบบการปลูกฝัง

ขณะที่การปราบปราม ทางภาคีเครือข่ายได้กระตุ้นให้ภาครัฐดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งก้้าวต่อไปจะมีการจัดทำแผนการปฏิบัติการปรับปรุงโครงสร้างการทำงานให้เป็นระบบ โดยมีการประสานงานทางด้านเงินทุนและด้านอื่นๆ ด้วยความร่วมมือขององค์กรระหว่างประเทศ เช่น โครงการพัฒนาสหประชาชาติ หรือ UNDP และเชื่อว่าแนวโน้มในอนาคตจะดีขึ้นด้วย เพราะปัญหาคอรัปชั่นเป็นปัญหาสำคัญในการบั่นทอนคุณภาพชีวิต และศักยภาพการแข่งขันของประเทศในการเข้าการสู่เออีซี ปี2558 หากทุกฝ่ายตระหนักในความร่วมมือ จะทำให้ประเทศล่มสลาย และประชาชนจะเกิดความยากจนอย่างถาวร

ส่วนแผนงานระยะสั้น จะรณรงค์โครงการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการหมาเฝ้าบ้าน โครงการฮั้วไม่จ่าย ที่เชิญชวนให้ภาคธุกิจเอกชนรวมตัวกันหยุดให้สินบนและตรวจสอบกันเอง และโครงการโตไปไม่โกง ที่ต้องการปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชน ส่วนแผนงานระยะปลานกลาง และระยะยาว จะมุ่งผลักดันให้มีการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ในการปราบปรามผู้กระทำผิดทุจริตคอร์รัปชั่น โดยมีการระดมสมองนักกฎหมาย ผู้นำทางความคิด สื่อมวลชน และสมาชิกภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เพื่อหาแนวทางแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆ

โดยภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้กำหนดให้วันที่ 6 ก.ย. ของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้จะมีการ บรรยาย เรื่อง การต่อต้านคอรัปชั่น การสัมนาในหัวข้อต่างๆ อาทิ รวมพลังภาคประชาชนสู้ด้วยเสียง ตรวจแถวหมาเฝ้าบ้าน การจำนำพืชผลทางการเกษตร เป็นต้น อีกทั้งการจัดงานในวันนี้เป็นการรำลึกถึง คุณดุสิต นนทนาคร อดีตประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นคนแรก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง