คณะกรรมการฟุตซอลของฟีฟ่าได้ทำการประชุมเมื่อช่วงเช้าประเด็นอยู่ที่การตัดสินใจว่าจะใช้สนามบางกอกฟุตซอลอารีน่าตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายหรือไม่ หลังจากที่สนามบางกอกฟุตซอลอารีน่ายังสร้างไม่เสร็จ ทั้งยังต้องรอพื้นสนามที่ติดปัญหาอยู่ที่ดานศุลกากรในประเทศจีน หลังจากประชุมพิจารณาเกือบ 2 ชั่วโมงที่ประชุมมีมติให้ใช้สนามบางกอกฟุตซอลอารีน่าตามแผนเดิม แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ฟีฟ่าได้กำหนด
โดยเงื่อนไขที่ฟีฟ่ากำหนดคือ 1. ต้องลดขนาดสนามในบริเวณชั้น 5 ลงเนื่องจากเป็นชั้นที่คาดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ในฟุตซอลโลก 2. มาตรการรักษาความปลอดภัยมีแผนชัดเจนหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และต้องมีแผนสำรองอพยพคนดู 3. ติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่ที่กำหนด และ 4. พื้นสนามต้องพร้อมปูก่อนวันที่ 5 พฤศจิกายน เพราะตอนนี้พื้นสนามที่สั่งจากมาเลเซียมาถึงที่สนามแล้ว เหลือรอจากไต้หวัน อิตาลี มาสมทบ แต่พื้นสนามที่ยังติดอยู่ที่ด่านศุลกากรจีน ฟีฟ่าต้องการรอพื้นสนามชนิดนี้เนื่องจากมาตรฐานดีที่สุด
นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลในฐานะบอร์ดบริหารฟีฟ่าที่เข้าประชุมด้วย กล่าวว่า ฟีฟ่าเห็นความตั้งใจในการสร้างสนาม และเข้าใจถึงปัญหาเรื่องต่างๆ ดี จึงให้โอกาสใช้สนามบางกอกฟุตซอลอารีน่า
ฟีฟ่าจะเดินทางไปตรวจสนามบางกอกฟุตซอลอารีน่าอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน และหากมาตรฐานของสนามทำไม่ได้ตามที่ฟีฟ่ากำหนดจะประกาศยกเลิกการใช้สนามทันที และในวันพรุ่งนี้การแข่งขันฟุตซอลโลกจะเริ่มเปิดฉากขึ้นโดยคู่แรกเวลา 17.00 น. ปารากวัย จะพบกับยูเครน จากนั้นจะมีพิธีเปิดเวลา 18.40 น. และพอพิธีเปิดจบจะเป็นเกมคู่ระหว่างทีมชาติไทย พบกับคอสตาริกา