สพฉ. ตรวจสอบมาตรฐาน-ขึ้นทะเบียนรถกู้ชีพในพื้นที่กรุงเทพฯ

สังคม
10 พ.ย. 55
07:22
1,033
Logo Thai PBS
สพฉ. ตรวจสอบมาตรฐาน-ขึ้นทะเบียนรถกู้ชีพในพื้นที่กรุงเทพฯ

หน่วยกู้ชีพจากมูลนิธิต่างๆในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นำรถปฏิบัติการฉุกเฉิน มาเข้าร่วมตรวจมาตรฐานทั้งสภาพรถ และอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ เพื่อขึ้นทะเบียน สร้างความมั่นใจในระบบการทำงานของผู้ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินให้กับประชาชน โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่จัดขึ้นทะเบียน หลังต่างจังหวัดได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว

นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดโครงการ "คน กทม. รอดปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน 85 " โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมขนส่งทางบก จัดขึ้นทะเบียนรถปฏิบัติการฉุกเฉินในพื้นที่กทม. โดยมีหน่วยกู้ชีพจากมูลนิธิต่างๆ นำรถปฏิบัติการกู้ชีพจำนวนกว่า 100 คัน มารับการตรวจมาตรฐานและขึ้นทะเบียนรับรองว่าได้มาตรฐาน พร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

รถกู้ชีพที่เข้าตรวจมาตรฐาน ต้องผ่านการตรวจหลักฐานทะเบียนรถ ภาพถ่ายรถ หนังสือรับรองจากต้นสังกัด การตรวจไฟวับวาบ ตรวจสภาพรถ ไฟสัญญาณที่ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอุปกรณ์มาตรฐานรถปฏิบัติการฉุกเฉิน ก่อนที่จะมีการออกหนังสือพร้อมสติ๊กเกอร์รับรองมาตรฐาน เพื่อนำไปติดรถเป็นสัญลักษณ์ว่าได้ผ่านการตรวจมาตรฐานรถปฏิบัติการฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว

เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บอกว่า ปัจจุบันทั่วประเทศ มีรถปฏิบัติการฉุกเฉินกว่า 12,000 คัน เฉพาะในพื้นที่กทม. มีจำนวน 2 พันคัน ซึ่งการขึ้นทะเบียนครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของกทม. หลังจากปริมณฑลและต่างจังหวัดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และ จากสถิติของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พบว่า ร้อยละ 70 ถึง 80 ของรถดังกล่าวสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็วมากกว่ารถพยาบาล ดังนั้น การขึ้นทะเบียน นอกจากจะช่วยคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว ยังทำให้ประชาชนมั่นใจในระบบการทำงานของผู้ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน รวมทั้ง รถและอุปกรณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉินว่าพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สพฉ. จะเปิดรับขึ้นทะเบียน รวมทั้ง เปิดให้ผู้ที่สนใจรับการอบรมการปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นเป็นระยะเวลา 1 ปี นอกจากนี้ ยังหารือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ช่วยอำนวยความสะดวกให้รถกู้ชีพสามารถขึ้นทางด่วนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยทันท่วงที เนื่องจากหลายโรงพยาบาลตั้งอยู่ใกล้กับทางด่วนในหลายจุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง