ไม่ยอมผิดศิลธรรมแม้ผู้กระทำผิดคือสามี เรื่องราวของภรรยาหลวง บุ่งชกเจ็ง ที่ตัดสินใจร้องทุกกล่าวโทษสามีต่อศาล หลังทราบว่าฆ่าหญิงที่ตั้งครรภ์กับตัวเองหวังปกปิดความจริง หนึ่งในการแสดงงิ้วที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเรื่อง กอชิงฮู ถ่ายทอดผ่านการแสดงของคณะงิ้วแต้จิ๋ว "ตงก่กกึงตังเตียเกี่ยหี่โตยอิ๊กท้วง" จากประเทศจีน ที่เดินทางมาแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 ในงานฉลอง 75 ปี แห่งการสถาปนาสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย แม้งิ้วแต้จิ๋วจะเคยได้รับความนิยมและรุ่งเรืองในประเทศไทย หากปัจจุบันการแสดงงิ้วเสื่อมความนิยมและเริ่มหาชมยาก ขณะที่นักแสดงงิ้วส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ไม่รู้ภาษาจีน การได้ชมงิ้วแต้จิ๋วคณะดังอันดับต้นๆจากกวางตุ้ง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวไทยเชื้อสาวจีนพลาดไม่ได้
กมล นภนที ผู้ชมชาวไทยเชื้อสายจีน เผยว่า เขาเล่นดีร้องดี ลีลาอะไรเข้าเล่นดีใส่อารมณ์ บ้านเราจะเล่นมั่วๆ แต่นี่เขาเล่นกันจริงจัง ผิดนิดนึงหัวหน้าคณะไม่ยิ้ม คนที่มาดูต้องลองสังเกต
ขณะที่ เขียน ไชยศุภรากุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งิ้วจริงๆต้นตำรับมาจากแต้จิ๋ว ย้ายมาเมืองไทยเมื่อกลางศตวรรษที่ 17 แล้วมาปักหลักที่นี่ แต่เนื่องจากสืบทอดของงิ้วไม่ได้มีการพัฒนาเลยทำให้งิ้วในเมืองไทยไม่มีคุณภาพ แต่งิ้วในจีนปัจจุบันนี้ไม่ได้เรียกงิ้ว เขาเรียกโอเปร่า มีโรงเรียนสอน คนที่เล่นจริงๆต้องมีความรู้ คนที่เคยดูจะบอกว่างิ้วล้าสมัย แต่ว่าถ้ามาดูจริงๆ จะรู้ว่ามันเป็นอุปรากร
แม้จะมีคิวแสดงในประเทศถึงปีละไม่ต่ำกว่า 200 รอบ หากฐานะหนึ่งในคณะงิ้วของรัฐบาลจีน การเดินทางถ่ายทอดและเผยแพร่ศิลปะการแสดงอุปรากรงิ้วในต่างประเทศ จึงเป็นอีกหน้าที่ของงิ้วแต้จิ๋วคณะนี้/ หลังสิ้นสุดยุคปฎิวัติวัฒนธรรมจีน งิ้วไม่เพียงได้รับการฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง โดยครูงิ้วที่หลบหนีไปประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ได้กลับไปพัฒนาการแสดงงิ้วในจีนขึ้นอีกครั้ง จนกลับมาเฟื่องฟู กลายเป็นการแสดงเอกลักษณ์สำคัญของชาติจีนและได้รับความสนใจจากเยาวชนรุ่นใหม่
เตีย อี่ ฮ้วง รองหัวหน้าคณะและนางเอกประจำคณะงิ้ว บอกว่า ปัจจุบันงิ้วในจีนได้รับความนิยมมาก ไม่เพียงแค่ชมการแสดง หากคนรุ่นใหม่ยังสนใจเรียนรู้ การแข่งขันทำให้คุณภาพของงิ้วในจีนเพิ่มมากขึ้น กว่าจะได้เป็นหนึ่งในนักแสดงของคณะงิ้วระดับต้นๆ จึงต้องมีพื้นฐานจากโรงเรียนการแสดงหรือนาฎศิลป์ และต้องทดสอบทั้งร้อง เต้น และรำ เพื่อรักษามาตรฐานการแสดงงิ้วของจีนให้เป็นที่ยอมรับ
จาง อิ๋ว อิ๊ ผู้ชมชาวสิงคโปร์ บอกว่า โอกาสที่จะได้ชมการแสดงจากคณะงิ้วคุณภาพในสิงคโปร์มีไม่บ่อย เพราะปัจุจบันแม้สิงคโปร์จะมีชาวจีนอยู่มาก เยาวชนจีนในสิงคโปร์รู้ภาษาจีนน้อยลงและหันไปสนใจภาษาอังกฤษมากกว่า ทำให้การแสดงงิ้วเสื่อมความนิยมตามไปด้วย คณะที่คณะงิ้วที่เหลืออยู่มีเพียงไม่กี่คณะ
การแสดงงิ้วในไทยเฟื่องฟูสูงสุดในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีคณะงิ้วเกิดขึ้นมากมาย ไปจนถึงเปิดโรงเรียนสอนการแสดงงิ้ว ทั้งยังมีโรงงิ้วขึ้นอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะย่านเยาวราชและถนนเจริญกรุง กลายเป็นมหรสพต่างถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดคนไทยมากที่สุด โดยงิ้วแต้จิ๋วได้รับความนิยมในเมืองไทยมากที่สุด เนื่องจากชาวจีนที่ย้ายมาอยู่ในไทยส่วนใหญ่เป็นชาวแต้จิ๋ว ภาษาแต้จิ๋วจึงเกือบเป็นภาษากลางของชาวจีนในเมืองไทย หากวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามามากขึ้นพร้อมกับความบันเทิงรูปแบบอื่น ทำให้งิ้วแต้จิ๋วไม่ได้รับการสืบทอดจนเสื่อมความนิยมลง