เมื่อวานนี้ นายเรเซ็ป ทายยิป เออร์โดกัน นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับตัวแทนผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงอังการ่า ซึ่งเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี 11 คน หลังเสร็จสิ้นการหารือไม่นาน รองหัวหน้าพรรค "เอเค" ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของนายเออร์โดกันก็แถลงข่าวเรียกร้องให้ผู้ประท้วงยุติการชุมนุมทันที โดยรัฐบาลอาจจะจัดให้มีการลงประชามติ เพื่อให้ประชาชนในนครอิสตันบูลลงมติว่าจะให้ยกเลิก หรือเดินหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะ "เกซี" ต่อไปหรือไม่ แต่ผู้ประท้วงก็ยังไม่สลายตัว หลายคนไม่เชื่อคำพูดของนายกรัฐมนตรี และเห็นว่าการพิจารณาให้ลงประชามติช้าเกินไป เพราะการประท้วงเกิดขึ้นเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว และรัฐบาลก็มีท่าทีแข็งกร้าวมาโดยตลอด
ในฝั่งของผู้ประท้วงก็เริ่มมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อ ผู้ชุมนุมบางส่วนบอกว่าคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของผู้ประท้วงทั้ง 11 คนที่เข้าไปเจรจากับนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นตัวแทนที่แท้จริง เป็นเพียงกลุ่มคนที่เลือกกันเองไม่มีการถามความเห็นของผู้ประท้วง จึงมองว่าการเจรจากับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ไม่โปร่งใส ในขณะที่การประท้วงเมื่อวานนี้เป็นวันที่ 13 แล้ว ในกรุงอังการ่า ตำรวจยังคงใช้แก๊สน้ำตาสลายการประท้วง โดยก่อนหน้านี้ตำรวจได้ยกกำลังเข้ารื้อถอนเต็นท์ของผู้ประท้วงเรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่นครอิสตันบูล ผู้ประท้วงเดินขบวนไปตามท้องถนนพร้อมตะโกนขับไล่รัฐบาล และบางส่วนขว้างก้อนหิน และระเบิดเพลิงใส่ตำรวจ ตำรวจจึงตอบโต้ด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง ทั้งนี้ สวนสาธารณะ "เกซี" ซึ่งถือเป็นสาเหตุหนึ่งของการประท้วงขับไล่รัฐบาลถือเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งสุดท้ายของนครอิสตันบูล ชาวเมืองจึงต้องการรักษาสวนสาธารณะแห่งนี้ไว้เป็นปอดของเมือง และคัดค้านแผนการพัฒนาที่ดินผืนนี้ที่จะทำลายสวนสาธารณะแล้วนำไปสร้างศูนย์การค้าขึ้นมาแทน ซึ่งตลอดเวลาที่เกิดการประท้วงไปทั่วประเทศ นายเออร์โดกันมีท่าทีแข็งกร้าวมาตลอด โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ยกเลิกแผนพัฒนาที่ดินดังกล่าว และยังกล่าวหาว่าการประท้วงที่กลายเป็นเหตุจลาจล เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายที่วางแผนโค่นล้มรัฐบาล