นายเนวิน ชิดชอบ ย้ำในแถลงการณ์ของเว็บไซค์สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีสาระสำคัญคือการแก้ไขข้อบังคับ โดยกล่าวว่าการเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติ เรื่องการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยไม่ให้สมาชิกได้มีสิทธิมีเสียงมีส่วนในการพิจารณากำหนด ไม่ใช่แนวทางปฎิบัติที่ถูกต้อง แม้จะอ้างว่าเป็นการกำหนดของฟีฟ่าก็ตาม เนื่องจากขัดต่อกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ของไทย
นอกจากนี้ยังย้ำว่าสมาคมฟุตบอลเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จะออกข้อบังคับที่ขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้
สิ่งที่นายเนวินต่อต้านชัดเจนคือการที่สมาคมกำหนดสิทธิในการเลืกตั้งเหลือเพียง 72 เสียง ซึ่งไม่ยอมรับสโมสรที่ไม่ได้เป็นสโมสรสมาชิก แต่กลับมีสิทธิ์เลือกตั้งนายกสมาคม และชี้ให้เห็นว่าเป็นการขัดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 97
นายเนวิน ยังยืนยันว่า ข้อบังคับเรื่องสิทธิ์การเลือกตั้งนั้นหากไม่ต้องการให้ขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สมาคมควรเขียนบทเฉพาะกาลไว้ว่า จะใช้ 72 เสียงตามแบบที่ฟีฟ่ากำหนดภายหลังจากมีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์เสร็จเสียก่อน
การแสดงท่าทีต่อต้านสมาคมอย่างเข้มแข็งของนายเนวิน อาจจะนำไปสู่การตัดสินอนาคตของวงการฟุตบอลไทยในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกลงโทษจากฟีฟ่าเนื่องจากฟีฟ่ายืนยันให้สมาคมฟุตบอล ดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายใต้ธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่าเท่านั้น
ล่าสุดสมาคมฟุตบอลเตรียมเรียกประชุมใหญ่พิเศษ โดยระบุว่าฟีฟ่าเป็นผู้กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคม เพื่อโหวตรับรองธรรมนูญใหม่ และกำหนดให้วันที่ 23 กันยายนเป็นวันเลือกตั้งนายกสมาคม ซื่งเป็นเงื่อนไขเวลาที่สมาคมต้องหนักใจ เนื่องจากกลุ่มชลบุรีได้เคลื่อนไหวด้วยการยื่นหนังสือให้สมาคมจัดการเลือกตั้งภายใน 21 วันตามข้อบังคับสมาคม
หมายความว่าหากสมาคมยึดข้อบังคับเป็นหลักก็ต้องจัดการเลือกตั้งภายในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ซึ่งประเทศไทยอาจจะเผชิญกับการกดดันและถูกตัดสิทธิ์จากฟีฟ่า แต่หากตัดสินใจที่จะยึดถือตามกรอบเวลาของฟีฟ่าก็อาจนำมาซึ่งการฟ้องร้องในภายหลัง