การท่องเที่ยวอียิปต์ทรุดหนัก จากเหตุรุนแรงทางการเมือง
เมืองกิซ่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะเดินทางมาชมความงามของปิรามิด ตอนนี้แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว คนที่ทำธุรกิจให้เช่าอูฐหรือธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นโรงแรม,ร้านอาหาร,ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงคนขับรถรับจ้าง แทบไม่มีรายได้ อย่างเจ้าของอูฐบอกว่ารายได้ในแต่ละวันยังไม่พอเลี้ยงอูฐเลย แม้ว่าเมืองกิซ่าจะไม่มีการชุมนุมประท้วง แต่คำเตือนของรัฐบาลนานาชาติที่เตือนพลเมืองของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาอียิปต์ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยยกเลิกการเดินทางมาอียิปต์ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
ขณะที่ทางการอียิปต์เองก็สั่งปิดพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานหลายแห่ง เนื่องจากเกรงว่าสถานที่เหล่านี้อาจถูกพวกฉวยโอกาสบุกเข้าไปปล้นทรัพย์สินมีค่า ความรุนแรงระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นถือเป็นการซ้ำเติมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอียิปต์ที่ย่ำแย่มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2554 ที่มีการปฏิวัติประชาชนเพื่อโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค หรือที่เรียกว่าปรากฎการณ์"อาหรับ สปริงส์"
การท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของอียิปต์ สถิติของสหพันธ์การท่องเที่ยวอียิปต์ระบุว่ามีคนทำงานอยู่ในภาคการท่องเที่ยวประมาณ 2,830,000 คน ในปี 2554 รายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่า 8,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 260,000 ล้านบาทหรือ คิดเป็นร้อยละ 11.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ จีดีพี
ในปีถัดมา ปี 2555 เมื่อสถานการณ์เริ่มนิ่ง การท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นอีกครั้ง นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาอียิปต์อีก แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรอบนี้กลับซ้่ำเติมให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของอียิปต์ย่ำแย่ลงอีกครั้ง