นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุรถตู้โดยสารสายปราจีนบุรี-กทม. ที่พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ บนถนนในพื้นที่ ต.บางขนาน อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จนเป็นเหตุให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บ 7 คน ว่า สาเหตุเกิดจากรถพ่วงจอดเสียอยู่กลางถนน แต่ไม่มีสัญญาณเตือนฉุกเฉิน ทำให้รถตู้ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า รถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้เถื่อน หรือ ป้ายฟ้า ที่ลักลอบวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร และมีการบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ที่ต้องบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 12 คน รวมคนขับ แต่รถตู้คันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารรวมคนขับมากถึง 16 คน
เบื้องต้น จึงได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก เร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้ประกอบการรถตู้วินดังกล่าว โดยให้ดำเนินการเอาผิด ทั้งตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ที่มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ที่ต้องส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก ไปหาแนวทางแก้ไขปัญหาการลักลอบวิ่งให้บริการของรถตู้เถื่อน ทั้งจากต้นเหตุ และปลายเหตุ โดยเฉพาะในบางเส้นทางที่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ภายใน 1 เดือน
รวมทั้งอาจต้องพิจารณาการนำรถตู้เถื่อนเข้าระบบเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมดูแล หรือ พิจารณาปรับเพิ่มจำนวนรถในแต่ละเส้นทาง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร
ปัจจุบันมีรถตู้โดยสารสาธารณะถูกกฎหมายให้บริการ 2 หมวด หมวด 1 รถตู้ร่วมบริการ ขสมก. วิ่งให้บริการใน กรุงเทพฯและปริมณฑล มี 128 เส้นทาง จำนวน 5,400 คัน และ รถตู้หมวด 2 วิ่งให้บริการระหว่างจังหวัด ในรัศมีไม่เกิน 300 กิโลเมตร 59 เส้นทาง จำนวน 5,000 คัน ขณะที่ จากการสำรวจเบื้องต้นมีรถตู้เถื่อนไม่ต่ำกว่า 500 คัน
นอกจากมาตรการที่ให้ดำเนินการกับรถตู้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้สั่งการให้ข้าราชการระดับ 9 ทดลองนั่งรถเมล์ หรือรถสาธารณะอื่นๆ ต่อไปอีก 1 เดือน หลังจากที่เคยมีคำสั่งให้ทดลองนั่ง 2 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค. - ส.ค. เพื่อให้รับทราบปัญหา และนำมากำหนดนโยบายการทำงานที่ถูกต้อง