จับตาประชุม
บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคได้ทะยอยเดินทางถึงเกาะบาหลีประเทศอินโดนีเซีย เพื่อหารือถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และต่อสู้กับการปกป้องทางการค้าซึ่งเป็นประเด็นท้าทายท่ามกลางความคาดหวังว่า การพบกันของผู้นำจะช่วยนำไปสู่การปลดล็อกจากภาวะชะงักชะงันในการเจรจาขององค์การการค้าโลกที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้
Resilient Asia Pacific, Engine of Global Growth หรือ เอเซียแปซิฟิกที่ฟื้นตัวพลังขับเคลื่อนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกคือคำขวัญของการประชุมเอเปคในครั้งนี้ แต่การที่ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐยังต้องเจอปัญหาภายในจนทำให้ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ และปัญหานี้อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกัน
ในสองวันของการประชุมของผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 เขตในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกจะมุ่งเน้นการเติบโตที่ยั่งยืน การเชื่อมโยงในภูมิภาค รวมถึงการเปิดการค้าการลงทุนเสรีตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ แต่สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้หลายประเทศมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายปกป้องเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสะท้อนให้เห็นจากสุนทรพจน์ของพลโทซูซิโล่ บัมบัง ยูโดโยดน่ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียในวันนี้
ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่าเราต้องป้องกันไม่ให้มีนโยบายปกป้องการค้าและเดินหน้าเส้นทางการค้าเสรี รวมถึงการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนเราต้องมั่นใจว่าความสัมพันธ์ทางการค้าไม่เพียงแต่แข็งแรงแต่ต้องสมดุลย์ด้วย โดยการป้องกันไม่ให้มีนโยบาบปกป้องการค้าอยู่ในร่างปฏิญญาของผู้นำเอเปคที่จะประกาศออกมาหลังเสร็จสิ้นก่ารประชุมด้วย
ในขณะที่ปัญหาการผ่านร่างงบประมาณจนทำให้ต้องปิดส่วนราขการกลางบางส่วนของสหรัฐและทำให้ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าตัดสินใจเข้าร่วมการประชุมเอเปคและการประชุมสุดยอดเอเซียตะวันออกมีการพูดถึงอย่างกว้างขวางในการประชุมครั้งนี้
นายกรัฐมนตรี ลี เสียนลุง ของสิงคโปร์กล่าวในวันนี้ว่าการที่ผู้นำสหรัฐไม่สามารถเดินทางมาได้สร้างความผิดหวังอย่างยิ่งและเน้นว่าปัญหาภายในของสหรัฐ วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ความท้าทายการปฏิรูปในจีนและความพยายามที่จะหลุดพ้นจากสภาพเศรษฐกิจซบเซาของญี่ปุ่นกว่า 20 ปีเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจโลก
นักวิเคราะห์มองว่า การที่ผู้นำสหรัฐตัดสินใจไม่มาร่วมประชุมที่สำคัญในครั้งนี้ทำให้เกิดข้อกังขาถึงความตั้งใจจริงของสหรัฐที่ต้องการกลับเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคและอาจเปิดโอกาสผู้นำจีนมีแต้มต่อโดยระหว่างการประชุมในครั้งนี้
ด้านประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิงและนายกรัฐมนตรี หลี่เค่อเฉียงของจีนได้มีการหารือแบบทวิภาคีและการเยือนอย่างเป็นทางการในหลายประเทศ
ในขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีได้หารือแบบทวิภาคีกับนาย สี่จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนในช่วงบ่ายของวันนี้ (6ต.ค.) โดยเนื้อหาส่วนมาเน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจโดยไทยเห็นด้วยกับข้อสเนอของจีนให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียและนายกรัฐมนตรีจะร่วมการประชุมที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (7ต.ค.) ถึงแม้การประชุมเอเปคจะเป็นการหารือโดยไม่ได้มีภาระผูกพันแต่ก็ถือเป็นเวทีสำคัญในการกำหนดเจตนารมย์ของบรรดาผู้นำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าร้อยละ 40 ของมูลค่าการซื้อขายของโลกและในครั้งนี้ผลของการประชุมจะเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญว่าจะสามารถปลดล็อกการประชุมการค้าโลกรอบโดฮาที่มุ่งสู่การเปิดการค้าเสรีได้สำเร็จหรือไม่โดยจะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีของสมาชิกองค์การการค้าโลกที่บาหลีในปลายปีนี้