เบื้องหลังการออกแบบชุดประจำชาติบนเวทีนางงามระดับโลก
สำรวจความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนผลงานออกแบบชุดไทยตัวแรกในชีวิตจะนำไปสวมใส่บนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส แม้ขั้นตอนการร่างแบบอาจใช้เวลาเพียง 30 นาที แต่เพราะเป็นชุดประจำชาติที่หลายคนจับตา "ธนาคม สิทธิอัฐกร" นักศึกษาปี 1 จากรั้วศิลปากร จึงต้องหาจุดเด่น โดนใจกรรมการ อย่างการนำงานหัตถกรรมเครื่องแขวนอุบะ มาสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ตัดเย็บเป็นผ้าคลุมตาข่ายด้านหลัง ขณะกระดาษตัดเป็นกลีบดอกพุด และดอกรัก ถูกแต่งแติมเป็นลูกเล่นบนบ่า เข้ากับ ชื่อชุด "นาฏยมาลี" ที่เปรียบความอ่อนช้อยของนาฏศิลป์ไทยกับความงามของดอกไม้
ความละเอียดของผ้าคลุมตาข่ายที่ทำจากกระดาษพับทีละชิ้นแล้วร้อยด้ายเข้าด้วยกัน ทำให้ต้องใช้แผ่นพลาสติกกันกระแทกค่อยๆ หุ้ม ก่อนม้วนเก็บเตรียมเดินทาง และไม่ลืมเตรียมวัสดุตัดเย็บเผื่อเสื้อผ้าชำรุด
เบื้องหน้าดูสวยสง่า หากแต่เบื้องหลังผู้เข้าประกวดมีเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเพื่อแต่งตัว หากยังจำกันได้ ชุดโลหะพัตราเมื่อปีที่แล้ว ณัฐพิมล นาฎยลักษณ์ เธอและพี่เลี้ยงต้องช่วยกันประกอบชฎาที่สูงเกือบ 1 เมตรด้วยตัวเอง และลงสีที่ตัวชฎาเพิ่มก่อนอวดโฉมบนเวที
ชุดกิงกาหลา ปักษาสวรรค์ ชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยม ปี 2546 ที่ก่อนขึ้นเวทีเพียงไม่นาน ไม้ค้ำปีกนกกลับชำรุด ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้มีดรับประทานอาหารแทน
ก่อนหน้านี้ เจ้าของผลงานชุดนาฎยมาลี วัย 18 ปี เคยมีผลงานสเก็ตช์แรงบันดาลใจจากพญาครุฑ โดยตั้งใจส่งเข้าประกวดชุดประจำชาติ แต่พลาดไปเพราะส่งไม่ทันกำหนด เขามักนำดอกไม้มาเป็นส่วนหนึ่งในงานออกแบบจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผสมผสานจินตนาการของตัวเอง เช่น ชุดรีไซเคิล "แรงบันดาลใจจากสัตว์ปีก" เมื่อครั้งสมัยเรียนมัธยมศึกษาปลาย ที่ใช้พลาสติก ผ้าดิบ และหลอดกาแฟมาตัดเย็บด้วยมือทั้งหมด และคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง
แม้ช่วง 10 ปีมานี้ ชุดประจำชาติบนเวทีประกวดระดับโลกได้กลายเป็นชุดไทยประยุกต์ ที่แสดงความคิดสร้างสรรค์ และการดีไซน์ที่แปลกตามากขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสให้นักออกแบบหน้าใหม่ได้แสดงฝีมือ หากความท้าทายสำคัญคือการสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย คู่ไปกับการดัดแปลงให้ร่วมสมัยอย่างพอดี