ตั้งคณะทำงานเร่งสรุปข้อเสนอร่างรัฐธรรมนูญ
เพื่อให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น คณะรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 คณะ คณะหนึ่งทำหน้าที่สรุปแนวทางและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 เพื่อให้มีการทำประชามติ ส่วนอีกคณะหนึ่งจะทำหน้าที่สรุปความเห็นและข้อเสนอเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้นัดหมายให้มีการประชุมวาระพิเศษ ในวันที่ 25 พ.ค. เนื่องจากครบกำหนดต้องส่งความเห็นให้กับกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญภายในวันเดียวกัน
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อทำประชามติจะดำเนินการตามขั้นตอน คือ เมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ คาดว่าภายในเดือน มิ.ย. จะส่งให้ สนช.พิจารณา โดยมีกรอบเวลา 15 วันนและหาก สปช.ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 ส.ค. ก็สามารถดำเนินการทำประชามติได้ ส่วนการจัดทำประชามติมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ กกต. โดยต้องมีการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เผยแพร่ต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 47 ล้านคน หรือ 47 ล้านเล่ม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้น ประมาณ 1 เดือน จึงให้มีการจัดทำประชามติ ซึ่งคาดว่า หากทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลานี้ การทำประชามติจะมีขึ้นในเดือนมกราคม 2559
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรี เปิดเผยว่า หากมีการทำประชามติการเลือกตั้งก็จะต้องเลื่อนออกไปโดยปริยาย โดยในร่างรัฐธรรมนูญที่ได้เขียนไว้ว่า เมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ มีกรอบเวลา 1 เดือน และส่งต่อให้ สนช. พิจารณาโดยใช้เวลาไม่เกิน 60 วัน เมื่อ สนช.เห็นชอบ ก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีก 1 เดือน และจัดการเลือกตั้งภายใน 3 เดือน หลังมีการประกาศใช้กฎหมายลูก ซึ่งคาดว่า จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างเร็วที่สุดในเดือน ส.ค. ปีหน้า (59)
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ เพิ่มขึ้นอีก 30 วัน จากเดิมมีเวลา 60 วัน เนื่องจากเห็นว่า ข้อเสนอจากภาคส่วนต่าง ๆ มีค่อนข้างมาก เกรงว่ากรรมาธิการยกร่างฯจะพิจารณาไม่ทันตามเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี ยังได้มีการพิจารณาข้อสรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยมีประเด็นที่จะแจ้งไปยังกรรมาธิการยกร่างฯ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.เรื่องถ้อยคำที่กำกวม เช่น คำว่า พลเมือง ปวงชนชาวไทย ประชาชน ราษฎร และบุคคล 2. ข้อความไม่ควรอยู่ในมาตรานั้น ๆ หรือควรจะบัญญัติเพิ่มเติม และ 3. เนื้อหาที่อาจกระทบต่อหลักการสำคัญ หลายเรื่องจะเสนอให้ตัดออก ปรับปรุง หรือทบทวน