ปทส.รับคดีสนามแข่งรถโบนันซ่ารุกพื้นที่ป่าสงวนฯ

สิ่งแวดล้อม
7 มิ.ย. 58
07:29
283
Logo Thai PBS
ปทส.รับคดีสนามแข่งรถโบนันซ่ารุกพื้นที่ป่าสงวนฯ

ผู้บริหารโบนันซ่าเขาใหญ่ นำเอกสาร น.ส.3ก จำนวน 4 แปลงมายืนยันพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่าสปีดเวย์ เขาใหญ่ ว่าได้มาถูกต้องตามกฏหมาย ขณะที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) รับสำนวนไปดำเนินคดีหลังตำรวจสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีแล้วเสร็จ

ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้บริหารสนามแข่งรถโบนันซ่าสปีดเวย์ เขาใหญ่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูงและเขาอ่างหิน เนื้อที่กว่า 100 ไร่

พ.ต.อ.บัญญัติ ทั่งกลาง พนักงานสอบสวนชำนาญการสถานีตำรวจภูธรปากช่อง ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานายไพวงษ์ เตชะณรงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่โบนันซ่าเขาใหญ่ พร้อมทนายความ นำเอกสาร น.ส.3ก จำนวน 4 แปลง เลขที่ 926-930 มาแสดงกับพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันว่าได้มาอย่างถูกต้อง ก่อนส่งมอบให้นายภูผา บุตรชาย ไปทำธุรกิจสนามแข่งรถ ทั้งนี้จะตรวจสอบว่านายไพรวงษ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามแข่งรถหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปากช่องแจ้งข้อหานายภูผา เตชะณรงค์ กรรมการบริษัทโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปิดเวย์, นายปรีชากรณ์ ปราบสงบและนายนิธิศเชษฐ์ สุทธิเจริญกุล มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติและก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ส่วนสนามแข่งรถและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายหลังผู้บริหารถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จากการตรวจสอบยังไม่มีการรื้อถอนอาคาร แต่ได้หยุดกิจการไว้ชั่วคราว

ขณะที่ พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าทีมพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ได้สอบสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนในคดีนี้ทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะส่งฟ้องบุคคลใดบ้างและเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2558 เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เดินทางมารับสำนวนการสอบสวนทั้งหมดไปดำเนินการเอง จึงพ้นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปากช่อง ส่วนการยื่นฟ้องบุคคลใดหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ปทส.เป็นผู้พิจารณา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง