ตม.จับขบวนการปลอมพาสปอร์ตรายใหญ่ ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ขายเล่มละ 60,000 บาท

อาชญากรรม
9 ก.พ. 59
20:29
3,528
Logo Thai PBS
ตม.จับขบวนการปลอมพาสปอร์ตรายใหญ่ ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ขายเล่มละ 60,000 บาท
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จับขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางรายใหญ่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พบปลอมขายทั่วโลกในราคา 40,000-60,000 บาท โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูง ต้องตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเฉพาะ

วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.ประวิทย์ ศศิธร รอง ผกก.2 บก.สส.สตม. และพ.ต.ท.ปรม พฤฒิกุล รอง ผกก.2 บก.สส.สตม.สส.สตม แถลงข่าวจับกุมแก๊งชาวต่างชาติทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ปลอม 6 ราย พร้อมอุปกรณ์หลายรายการ เช่น แท่นปั้มลายกระดาษปกหนังสือเดินทาง เครื่องปั้มลายนูน จักรเย็บผ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท่นแม่พิมพ์ปกหนังสือเดินทาง แผ่นพลาสติกเคลือบตราประทับ และหนังสือเดินทางปลอม 37 ประเทศ จำนวน 146 เล่ม

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ปี 2556-2558 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สตม. จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเอกสารเดินทางปลอมหลายคดี พร้อมนายหน้าและผู้ร่วมขบวนการลักลอบส่งคนไปยังประเทศที่สาม ยึดเอกสารการเดินทางปลอมและตราประทับของ ตม.ไทย และตม.ต่างชาติ ได้จำนวนมาก ซึ่งจากการจับกุมมีข้อมูลเชื่อมโยงไปยังตัวการใหญ่ที่รู้จักในนามด๊อกเตอร์ โดยมีพฤติกรรมเป็นนักปลอมแปลงพาสปอร์ตคุณภาพสูง ระดับเกรด AAA มีการรับประกันความสำเร็จของผลงาน

นอกจากนี้ยังพบว่า มีการสั่งปลอมหนังสือเดินทางจากต่างประเทศทางอินเตอร์เน็ต โดยลูกค้าจะส่งภาพถ่ายและข้อมูลส่วนตัวผ่านทางอีเมล์ และสามารถเลือกประเทศที่ต้องการปลอมแปลงได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเดินทางจากประเทศยุโรป เพราะมีความน่าเชื่อถือสูง และใช้เดินทางเข้า-ออก ได้เกือบทุกประเทศ นอกจากนี้ ตัวด็อกเตอร์เองก็ใช้พาสปอร์ตปลอมเดินทางเข้าประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบด้วยตาเปล่า ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะในการตรวจเท่านั้น จึงจะรู้ว่าเป็นของปลอม

พล.ต.ท.ณัฐธรกล่าวว่า เมื่อแก๊งดังกล่าวปลอมพาสปอร์ตให้ลูกค้าได้สำเร็จ ก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชี ก่อนจะส่งมอบพาสปอร์ตปลอมผ่านทางบริษัทส่งสินค้าด่วน โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นตะวันออก คิดราคาเล่มละ 40,000-60,000 บาท

จากการขยายผลพบว่าด๊อกเตอร์ เป็นคนชอบเก็บตัว การติดต่องานจะติดต่อผ่านตัวกลาง โดยไม่มีผู้ใดได้พบเห็นตัวจริง ทราบเพียงว่าเป็นชายชาวอิหร่าน อายุประมาณ 40-50 ปี ศีรษะล้าน กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนพบว่า ชายคนดังกล่าวอยู่ในบ้านเลขที่ 23/193 หมู่บ้านทรัพย์กมล ถ.สุวินทวงศ์ ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงขอหมายศาลออกหมายค้นจนพบชายชาวต่างชาติคนดังกล่าว และขยายผลจับกุมสมาชิกในแก๊งอีกหลายคน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง