ศาลฎีกาฯ นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์คดีจำนำข้าวนัด 3-ประธานเครือข่ายชาวนาไทยขึ้นไต่สวน

การเมือง
26 ก.พ. 59
09:24
160
Logo Thai PBS
ศาลฎีกาฯ นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์คดีจำนำข้าวนัด 3-ประธานเครือข่ายชาวนาไทยขึ้นไต่สวน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 3 คดีโครงการรับจำนำข้าว โดยพยาน 1 ใน 3 ปาก คือนายระวี รุ่งเรือง เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง และยังเคยชุมนุมเรียกร้องเงินค่าจำนำข้าวจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์

วันนี้ (26 ก.พ.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์เป็นนัดที่ 3 ตามที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ตามข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว

โดยเวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ จำนวน 3 ปาก ประกอบไปด้วยนายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงการโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเคยชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนาในช่วงต้นปี 2557 และยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนี้ด้วย

ขณะที่พยานอีกปาก คือ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี อดีตคณะอนุกรรมการติดตามการตรวจสอบการระบายข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของวุฒิสภาที่เคยลงพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งได้ข้อมูลพร้อมหลักฐานเกี่ยวกับการสั่งซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นผู้หนึ่งที่เห็นว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติการณ์ที่จะทำให้กระบวนการรับจำนำข้าวเสียหาย

พยานที่สำคัญอีกปาก คือนายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ที่เคยเปิดเผยข้อมูลตัวเลขต้นทุนการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และชี้ว่ารัฐบาลขายข้าวต่ำกว่าต้นทุนแก่พวกพ้อง และนำมาขายต่อเอกชนในประเทศในราคาการขายข้าวส่งออกต่างประเทศราคากิโลกรัมละ 20 บาท โดยมีส่วนต่างจำนวน 10 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวทุก 1 ล้านตันที่ขายจะมีกำไร 10,000 ล้านบาท และเชื่อว่าเม็ดเงินจำนวนนี้ไม่ได้เข้ารัฐ จึงเห็นว่ารัฐสร้างความเสียหายต่อกลไกของตลาดข้าวด้วย

การสืบพยานฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยไต่สวนนานไปจนถึงช่วงเดือน พ.ย.นี้ โดยพยานฝ่ายโจทก์มีจำนวน 14 ปาก ไต่สวนไปแล้วเพียง 4 ปาก เหลืออีก 10 ปาก ส่วนพยานที่ได้เลื่อนออกไปจากนัดแรกและนัดที่ 2 ศาลจะทำการนัดขึ้นให้ความใหม่อีกครั้ง ขณะที่พยานฝ่ายจำเลยมีจำนวน 42 ปาก ตามหมายนัดจะเริ่มไต่สวนนัดแรกในวันที่ 1 เม.ย.นี้ และเป็นที่คาดการณ์ว่าแล้วเสร็จในกระบวนการไต่สวน ศาลจะนัดฟังคำพิพากษาในคดีนี้ ในเดือน ธ.ค.นี้

นอกจากคดีทางการเมืองที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะถูกตัดสินทางการเมือง 5 ปีแล้ว ก็ต้องติดตามผลทางคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คู่ขนานไปกับการเรียกคืนความเสียหายที่รัฐบาล-คสช.จะใช้กระบวนการทางละเมิดด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง