วันนี้ (14 มี.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาตรการการป้องกันและจัดการปัญหาละเมิดสิทธิผู้ติดเชื้อเอชไอวีและครอบครัว
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว รองประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องกรณีมีสถานศึกษาบางแห่ง ไม่ให้นักเรียนที่มีผู้ปกครองติดเชื้อเอชไอวีเข้าศึกษาต่อ ล่าสุดเกิดกรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม บังคับให้เด็กวัย 4 ขวบ ตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวี ทั้งทีผู้ปกครองยืนยันว่า เด็กคนดังกล่าวเคยตรวจเลือดหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ติดเชื้ออย่างแน่นอน ขณะที่โรงพยายาลปฏิเสธการตรวจเลือดหาการติดเชื้อ แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนยังคงทำหนังสือถึงโรงพยาบาล จึงถือเป็นการละเมินสิทธิมนุษยชนและผิดกฎหมายการศึกษาปี 2542 ที่ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาโดยไม่ถูกกีดกัน
"การบังคับตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีเป็นการละเมิดสิทธิที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะต้องได้รับการยินยอม ส่วนใหญ่ที่ตรวจก็เพื่อการรักษา ไม่ใช่เพื่อการสมัครงาน หรือสมัครเรียน" นายอภิวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ เครือข่ายฯ เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเอาผิดกับโรงเรียนดังกล่าว พร้อมทั้งช่วยเหลือเยียวยานักเรียนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ พร้อมออกประกาศห้ามตรวจเลือดนักเรียนหาเชื้อเอชไอวี
ด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าจะหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไป