วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ผู้ประกอบการทยอยเข้าจดแจ้งเป็นผู้ประกอบการบัญชีเดียว โดยวันที่ 14 มีนาคม 2559 มียอดผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 430,000 ราย ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของสรรพากรที่ตั้งไว้ 35,000 ราย
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การลงทะเบียนวันนี้จะเพิ่มขึ้น เพราะจะส่งผลดีมากกว่าผลเสีย และเมื่อระบบการชำระเงินอิเล็คทรอนิกส์ หรือ เนชั่นนอล อี เพล์ยเมนท์ เสร็จ จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูล และตรวจพบได้ทันทีว่าแจ้งรายได้ผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาแก้ไขกฎหมายประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการเรียกดูข้อมูลบุคคลที่ 3 ซึ่งจะสามารถสุ่มตรวจรายได้ และธุรกรรมของผู้เสียภาษีผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ ภายในปี 2560 และเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษีร้อยละ 30 หรือ คิดเป็นเงินกว่า 100,000 ล้านบาท
ด้าน น.ส.พัดชา พงศ์กีรติยุต รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายได้ และการเสียภาษีของสถานประกอบการ ที่ยังไม่ขึ้นทะเบียน ซึ่งผู้ประกอบการที่ไม่เข้าสู่ระบบจัดทำบัญชีเดียว อาจเสียโอกาสเข้าถึงสวัสดิการ และมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลจะจ่ายเงิน หรือให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรประชาชน ตามนโยบายเนชั่นแนล อีเพลย์เม้นท์ ของกระทรวงการคลัง