ในช่วงต้นของงานเสวนา ผู้เข้าร่วมเสวนาชี้ให้เห็นเป้าหมายของการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ว่า ตามหลักการสากลเป็นไปเพื่อสร้างกลไกป้องกันผลกระทบก่อนเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องและสร้างกลไกให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม
คำสั่ง คสช.ที่เปิดทางให้เอกชนลงทุนประกอบการได้โดยไม่ต้องรอกระบวนการทำอีไอเอให้แล้วเสร็จ จึงถือว่าละเมิดหลักการทำอีไอเอและเสี่ยงต่อการเกิดโครงการที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยอาจจะไม่สามารถยับยั้งความสูญเสียของสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตประชาชนได้ทันเวลา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคำสั่งนี้จะขัดกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 54 ที่ระบุว่าต้องมีการทำอีไอเอ, อีเอชไอเอและรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนดำเนินโครงการ
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตร 44 ออกคำสั่งที่ 9/2559 "เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมของชาติ" เพื่อลดความล่าช้าก่อนการลงทุนกิจการที่เกี่ยวกับการคมนาคม การชลประทานและการป้องกันสาธารณะภัย โดยมีเป้าหมายเร่งรัดการลงทุนเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยมีการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นประเทศแรกในเอเชีย เพราะคนในสังคมมีความตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และป้องกันผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน