วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปีนี้ ยังคงอยู่ช่วงในสถานการณ์พิเศษภายใต้ คสช. ทำให้ถูกจับตามองถึงการปรับเปลี่ยนในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะระดับ 5 เสือ ทบ. แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่า เป็นการปรับย้ายนายทหารกลางปีตามปกติ โดยปรับจำนวนไม่มาก และไม่ขยับตำแหน่ง 5 เสือทบ.
แต่เป็นที่คาดการณ์ว่า การปรับย้ายครั้งนี้ จะต้องปรับเปลี่ยนตำแหน่งหลักบางตำแหน่ง เพื่อหมุนเวียนและรองรับผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมด้วย ซึ่งคาดว่า นายทหารที่ใกล้ชิดพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม บางคน อาจขยับไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ เช่น พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี รองเสนาธิการทหารบก และ พล.ท.จิระพันธ์ มาลีแก้ว รองเสนาธิการทหารบก โดยพล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ รองแม่ทัพภาคที่ 1 นายทหารใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร จะเข้ามาเป็นรองเสนาธิการทหารบก และอาจขยับพล.ต.กันตภณ อัครานุรักษ์ รองแม่ทัพน้อยที่ 1 มาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 แทน และให้พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เข้ามาเป็นรองแม่ทัพน้อยที่1 และพล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.2 รอ.) และขยับพ.อ.สนิทชนก สังขจันทร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 มาเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11) ซึ่งนับเป็นหน่วยสำคัญในการสนับสนุนภารกิจของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในขณะนี้
นอกจากนี้ในกองทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัช สุขปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งจะเกษียณอายุราชการปลายปี 2559 จะขยับขึ้นเป็นพล.อ.ในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ขณะที่พล.ต.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพน้อยที่ 2 ขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ด้านพล.ต.ศักดา เปรุนาวิน รองแม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 2
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นการปรับย้ายและหมุนเวียนตามปกติ โดยไม่ขยับ 5 เสือ ทบ. อาจทำให้การพิจารณาตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก แทน พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ที่จะเกษียณอายุในเดือนกันยายนนี้ จะมีบุคคลที่เป็นแคนดิเดท เพียง 2 คน คือ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และพล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบก
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีการจับตามองกันว่า ผู้ที่จะมาเป็นผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ธีรชัย มีการวางตัวนายทหารไว้แล้ว 2 คน คือ “บิ๊กแกละ” พล.อ.พิสิทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.และผอ.ศูนย์ปรองดอง คสช. ก่อนจะขยับมาเป็น เสนาธิการทหารบก และ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย ซึ่งก่อนหน้านี้เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นเตรียมทหาร รุ่น 16 เกษียณในปี 2561 ขึ้นมาเป็น ผู้ช่วยผบ.ทบ. เพื่อเป็นแคนเดิเดท ซึ่งพล.อ.เฉลิมชัยถูกมองว่า มีน้ำหนักน้อยกว่า พล.อ.พิสิทธิ์ ซึ่งเป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตร และกำนิดมาใน สายบูรพาพยัคฆ์และมาโตในสายวงศ์เทวัญ